อัยการสูงสุดประสานนิวซีแลนด์ขอส่งตัว “ตั้ง อาชีวะ” เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยข้อหาหมิ่นเบื้องสูง หลังโพสต์เฟซบุ๊กระบุเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์สมบูรณ์แล้ว
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ร้องขอให้อัยการสูงสุดดำเนินการขอส่งนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า หลังจากที่ สตช.ได้ทำหนังสือขอให้อัยการสูงสุดขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนนายเอกภพ หรือตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2429/2556 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2556 ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องมาที่อัยการแล้ว และพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 ได้มีคำสั่งฟ้อง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติสืบสวนได้ความว่า นายเอกภพผู้ต้องหาได้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ อัยการสูงสุดผู้ประสานงานกลางตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน 2551 จึงได้ดำเนินการร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังทางการประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อพิจารณาส่งตัวนายเอกภพเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในประเทศไทยในความผิดดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/279 หมู่ที่ 2 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. ได้ถูกศาลอาญาออกหมายจับ ตามคำร้องของ พ.ต.ท.โกเมน สุภาพ พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ซึ่งปรากฏพฤติการณ์ในคลิปวิดีโอขณะปราศรัยบนเวทีเล็กของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่จัดขึ้นที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2556 โดยมีการปราศรัยในลักษณะหมิ่นสถาบันอย่างรุนแรง ซึ่งระหว่างที่หลบหนีหมายจับอยู่นั้น นายเอกภพได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเยาะเย้ยการตามจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หลายครั้ง และในช่วงปลายปี 2557 นายเอกภพได้โพสต์เฟซบุ๊กโชว์พาสปอร์ตของประเทศนิวซีแลนด์พร้อมระบุว่าเป็นตนเองพลเมืองโดยสมบูรณ์แล้ว