ผู้เสียหายที่เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำนวนกว่า 30 ราย ได้เดินทางมาแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัทยูฟัน ฐานฉ้อโกง หลังถูกหลอกให้นำเงินไปลงทุนรวมมูลค่าเสียหายกว่า 15 ล้านบาท โดยมี พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาติดตามความคืบหน้าคดีนี้
พล.ต.ท.ดร.สุวิระ กล่าวว่า นอกจากกลุ่มผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความในวันนี้แล้ว ยังมีผู้เสียหายอีก 46 คน จาก 19 จังหวัด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริการ บริษัทยูฟันฯ แล้ว รวมมูลค่าความเสียหายขณะนี้ราว 22 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทราบว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่าหากแจ้งความแล้วจะไม่ได้เงินคืน แต่คดีนี้ทางตำรวจได้มีการยึดทรัพย์เครือข่ายไว้แล้วกว่า 400 ล้านบาท ดังนั้นผู้ที่มาแจ้งความทั้งหมดจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนตามส่วนที่เสียหายไปจริง จึงอยากขอให้ทางผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ รีบเข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจโดยเร็ว เพื่อที่จะได้สรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าจะสรุปสำนวนคดีส่งอัยการได้ในช่วงเดือน พ.ค. นี้ โดยตำรวจได้แบ่งชุดพนักงานสอบสวนออกเป็น 9 ทีม เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดี ขณะที่ผู้ต้องหาบางส่วนหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ การจะนำตัวกลับมาดำเนินคดีนั้นคงต้องให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก่อน จึงสามารถดำเนินการประสานขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้
พล.ต.ท.ดร.สุวิระ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบถามผู้เสียหายรายหนึ่ง ทราบว่า ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟันฯ เนื่องจากผู้ชักชวนได้อ้างว่าจะได้เงินคืน 1% ทุกเดือนจากยอดขายตลาดทั่วโลก ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินร่วมลงทุนไป จำนวน 1.4 ล้านบาท โดยมีหลักฐานการโอนเงินเข้าไปในบัญชีของบริษัท ยูฟัน พร็อบเพอร์ตี้ แต่เมื่อลงทุนแล้วกลับไม่เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตามผู้เสียหายรายนี้ยังโชคดีที่ได้เงินคืนมาบางส่วนแล้ว ส่วนกรณี น.ส.หรรษา ธาราบัณฑิต ผู้ถือหุ้นในบริษัทยูฟัน ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวานนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแล้ว และอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงินประกัน 5 แสนบาท เนื่องจากเข้ามอบตัวเอง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
พล.ต.ท.ดร.สุวิระ กล่าวว่า นอกจากกลุ่มผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความในวันนี้แล้ว ยังมีผู้เสียหายอีก 46 คน จาก 19 จังหวัด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริการ บริษัทยูฟันฯ แล้ว รวมมูลค่าความเสียหายขณะนี้ราว 22 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทราบว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่าหากแจ้งความแล้วจะไม่ได้เงินคืน แต่คดีนี้ทางตำรวจได้มีการยึดทรัพย์เครือข่ายไว้แล้วกว่า 400 ล้านบาท ดังนั้นผู้ที่มาแจ้งความทั้งหมดจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนตามส่วนที่เสียหายไปจริง จึงอยากขอให้ทางผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ รีบเข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจโดยเร็ว เพื่อที่จะได้สรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าจะสรุปสำนวนคดีส่งอัยการได้ในช่วงเดือน พ.ค. นี้ โดยตำรวจได้แบ่งชุดพนักงานสอบสวนออกเป็น 9 ทีม เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดี ขณะที่ผู้ต้องหาบางส่วนหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ การจะนำตัวกลับมาดำเนินคดีนั้นคงต้องให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก่อน จึงสามารถดำเนินการประสานขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้
พล.ต.ท.ดร.สุวิระ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบถามผู้เสียหายรายหนึ่ง ทราบว่า ถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟันฯ เนื่องจากผู้ชักชวนได้อ้างว่าจะได้เงินคืน 1% ทุกเดือนจากยอดขายตลาดทั่วโลก ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินร่วมลงทุนไป จำนวน 1.4 ล้านบาท โดยมีหลักฐานการโอนเงินเข้าไปในบัญชีของบริษัท ยูฟัน พร็อบเพอร์ตี้ แต่เมื่อลงทุนแล้วกลับไม่เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตามผู้เสียหายรายนี้ยังโชคดีที่ได้เงินคืนมาบางส่วนแล้ว ส่วนกรณี น.ส.หรรษา ธาราบัณฑิต ผู้ถือหุ้นในบริษัทยูฟัน ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวานนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแล้ว และอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงินประกัน 5 แสนบาท เนื่องจากเข้ามอบตัวเอง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี