พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีผู้บริหารและผู้ถือหุ้น บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ชาวไทย 4 ราย ถูกจับกุม พร้อมยึดทรัพย์สินต่างๆรวมทั้งรถยนต์หรูราคาแพงอีกหลายคัน มูลค่ากว่า 250 ล้านบาท หลังถูกประชาชนร้องเรียนว่าบริษัทดำเนินกิจการในลักษณะแชร์ลูกโซ่ มีผู้ถูกหลอกลวงจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายนับหมื่นล้านบาท เบื้องต้นพบหุ้นส่วนตัวการใหญ่ชาวมาเลเซีย 4 คน ที่ถูกออกหมายจับอยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศ
ทั้งนี้ชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างตรวจเอกสารต่างๆ อย่างละเอียด รวมทั้งช่วยกันโหลดคลิปการเผยแพร่การดำเนินงานของ บ.ยูฟัน สโตร์ จก. ทางเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติม จากการตรวจสอบทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า บ.ยูฟัน สโตร์ จก. ขยายเครือข่ายไปยังประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน เยอรมนี อังกฤษ อิตาลี นอร์เวย์ ออสเตรเลีย รวมทั้งประเทศในแถบเอเชียทั้งหมด โดยโฆษณาอ้างว่ามีสมาชิก 300,000 ราย ใน 78 ประเทศ โดยบริษัทเป็นตัวกลางให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกัน และใช้เงินดิจิตอลของบริษัท ที่เรียกว่า “ยูโท เคน” ของบริษัทเป็นเครื่องมือในการซื้อขายสินค้า
พฤติการณ์ดังกล่าวถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องประสานกับตำรวจสากลในการดำเนินการกับตัวการในต่างประเทศ ส่วนจะมีการจับกุมสมาชิกบริษัทระดับต้นๆ ที่เป็นตัวการสำคัญชักชวนคนมาเป็นสมาชิกบริษัทเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น เท่าที่ได้รับการร้องเรียน ยังมีแกนนำบริษัทอีก 7 คน ที่ถูกจับตาอยู่และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติจับกุม หากหลักฐานสาวไปถึง ซึ่งบุคคลที่ถูกจับตามองเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคมและเป็นผู้โฆษณาชักชวนให้คนหลงเชื่อมาสมัครเป็นสมาชิก โดยตำรวจอาจต้องเชิญตัวเข้าให้ข้อมูลด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ผู้บริหารและหุ้นส่วนชาวมาเลเซียของ บ.ยูฟัน สโตร์ จก. อีก 4 ราย หลบหนีอยู่ในต่างประเทศนั้น ได้มีดาโต๊ะ ดาเนียลเต ผู้บริหาร บ.ยูฟัน สโตร์ จก.ในประเทศมาเลเซีย จัดทำคลิปวีดิโอจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แจกจ่ายชี้แจงกับสมาชิกบริษัทในประเทศไทย อ้างว่าบริษัททำถูกต้องและเปิดสาขาในหลายประเทศ แต่ถูกร้องเรียนทำให้ทางการไทยเข้าตรวจสอบบริษัท พร้อมอ้างว่าผู้บริหารไม่ได้คิดฉ้อโกง แต่เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ทางบริษัทยินดีร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการตรวจสอบ
ทั้งนี้พล.ต.ท.สุวิระเปิดเผยว่า ตำรวจได้คลิปวีดิโอมาแล้ว กำลังตรวจสอบว่าดาโต๊ะ ดาเนียล เต เป็นคนเดียวกับนายเทคิม เลง ชาวมาเลเซีย 1 ใน 4 คน ที่ออกหมายจับหรือไม่ เพราะทราบว่ามีการใช้หลายชื่อ คาดว่าผู้ต้องหาทั้งหมดคงจะกลับไปปักหลักอยู่ที่ประเทศมาเลเซียแล้ว หลังจากมีการจับกุมผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในประเทศไทย ขอแจ้งไปยังสมาชิกที่คิดว่าเสียหายมาแจ้งความเพื่อรักษาสิทธิไว้ก่อน ทราบว่ามีการโอนเงินออกนอกประเทศไปหลายพันล้านบาทแล้ว จึงขัดกับคลิปแถลงการณ์ของตัวแทนบริษัท
ทั้งนี้ชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างตรวจเอกสารต่างๆ อย่างละเอียด รวมทั้งช่วยกันโหลดคลิปการเผยแพร่การดำเนินงานของ บ.ยูฟัน สโตร์ จก. ทางเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติม จากการตรวจสอบทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า บ.ยูฟัน สโตร์ จก. ขยายเครือข่ายไปยังประเทศต่างๆ อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน เยอรมนี อังกฤษ อิตาลี นอร์เวย์ ออสเตรเลีย รวมทั้งประเทศในแถบเอเชียทั้งหมด โดยโฆษณาอ้างว่ามีสมาชิก 300,000 ราย ใน 78 ประเทศ โดยบริษัทเป็นตัวกลางให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกัน และใช้เงินดิจิตอลของบริษัท ที่เรียกว่า “ยูโท เคน” ของบริษัทเป็นเครื่องมือในการซื้อขายสินค้า
พฤติการณ์ดังกล่าวถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องประสานกับตำรวจสากลในการดำเนินการกับตัวการในต่างประเทศ ส่วนจะมีการจับกุมสมาชิกบริษัทระดับต้นๆ ที่เป็นตัวการสำคัญชักชวนคนมาเป็นสมาชิกบริษัทเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น เท่าที่ได้รับการร้องเรียน ยังมีแกนนำบริษัทอีก 7 คน ที่ถูกจับตาอยู่และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติจับกุม หากหลักฐานสาวไปถึง ซึ่งบุคคลที่ถูกจับตามองเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคมและเป็นผู้โฆษณาชักชวนให้คนหลงเชื่อมาสมัครเป็นสมาชิก โดยตำรวจอาจต้องเชิญตัวเข้าให้ข้อมูลด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ผู้บริหารและหุ้นส่วนชาวมาเลเซียของ บ.ยูฟัน สโตร์ จก. อีก 4 ราย หลบหนีอยู่ในต่างประเทศนั้น ได้มีดาโต๊ะ ดาเนียลเต ผู้บริหาร บ.ยูฟัน สโตร์ จก.ในประเทศมาเลเซีย จัดทำคลิปวีดิโอจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แจกจ่ายชี้แจงกับสมาชิกบริษัทในประเทศไทย อ้างว่าบริษัททำถูกต้องและเปิดสาขาในหลายประเทศ แต่ถูกร้องเรียนทำให้ทางการไทยเข้าตรวจสอบบริษัท พร้อมอ้างว่าผู้บริหารไม่ได้คิดฉ้อโกง แต่เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ทางบริษัทยินดีร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการตรวจสอบ
ทั้งนี้พล.ต.ท.สุวิระเปิดเผยว่า ตำรวจได้คลิปวีดิโอมาแล้ว กำลังตรวจสอบว่าดาโต๊ะ ดาเนียล เต เป็นคนเดียวกับนายเทคิม เลง ชาวมาเลเซีย 1 ใน 4 คน ที่ออกหมายจับหรือไม่ เพราะทราบว่ามีการใช้หลายชื่อ คาดว่าผู้ต้องหาทั้งหมดคงจะกลับไปปักหลักอยู่ที่ประเทศมาเลเซียแล้ว หลังจากมีการจับกุมผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในประเทศไทย ขอแจ้งไปยังสมาชิกที่คิดว่าเสียหายมาแจ้งความเพื่อรักษาสิทธิไว้ก่อน ทราบว่ามีการโอนเงินออกนอกประเทศไปหลายพันล้านบาทแล้ว จึงขัดกับคลิปแถลงการณ์ของตัวแทนบริษัท
