ตำรวจปทุมธานีรวบโจ๋มือชี้เป้าให้เพื่อนก่อเหตุยิงและรุมแทงนักศึกษา ม.รังสิตเสียชีวิต ระบุเข้าใจผิดคิดว่าผู้ตายมาจีบสาวในผับคนเดียวกัน แต่เมื่่อขี่ จยย.ไล่ตามไปก็ห้ามเพื่อนไม่ทันแล้ว ส่วนอีกสองรายยังคงหลบหนี
จากเหตุการณ์มีนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสมารักษาตัวที่โรงบาลแพทย์รังสิตและเสียชีวิตในเวลาต่อมา มีผู้เสียชีวิตคือนายอาทิตย์ สายสล้าง อายุ 21 ปี นักศึกษาของมหาวิทยาลัยรังสิต ชั้นปีที่ 2 และเป็นนักฟุตบอลของมหาวิทยาลัยรังสิต เสียชีวิต ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณด้านหลังขวากระสุนฝังในจำนวน 1 แห่ง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกรายคือนายสุวสิน ปทุมเมศร์ อายุ 21 ปี ถูกแทงเข้าที่บริเวณแขนขวา และชายโครงขวาและเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยรังสิต ชั้นปีที่ 2 อาการปลอดภัยแล้ว เหตุเกิดภายในเมืองเอกหลังจากกลับสถานบันเทิงย่านเมืองเอกตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (6 มิ.ย.) พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยพล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.ภ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง.ผบก.ภ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี แถลงข่าวจับกุมคนร้ายร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้อื่น โดยคนร้าย 3 คนขับขี่จักรยานยนต์ทั้ง 3 คัน ตามประกบยิงนายอาทิตย์ สายสล้าง อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตจนเสียชีวิต และใช้อาวุธมีดแทงนายสุวิน ประทุมเมศร์ ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณถนนเอกทักษิณ หมู่ที่ 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาระดับสูง ได้สั่งการให้สืบสวนเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยชุดสืบร่วมกันลงพื้นที่ออกหาตัวคนร้ายจนกระทั่งสืบทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีจำนวน 3 คน คือนายพูนศักดิ์ เสาร์แก้ว หรือลุค อายุ 21 ปี เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายอาทิตย์ สายสล้าง อายุ 21 ปี ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตจนเสียชีวิต ส่วนนายราเชนทร์ นิทรัพย์ หรือฟู อายุ 19 ปีเป็นคนที่ใช้อาวุธมีดเข้าแทงเพื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายวีระ ศรีผ่อง หรือเต๋า อายุ 22 ปี เป็นผู้ชี้เป้า ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแล้วในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยใช้อาวุธปืนและร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้อาวุธมีดและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุอันควร
จนกระทั่งเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตัวนายวีระ ศรีผ่อง หรือเต๋า อายุ 22 ปี เป็นผู้ชี้เป้าได้ที่บ้านพักย่านสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยรถของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกูปปี้ไอ หมายเลขทะเบียน อฉฬ-924 กทม. ส่วนนายพูนศักดิ์ เสาร์แก้ว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210/56 ซอยเดชะตุงคะ 2 ถนนเดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมืองกทม ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต และนายราเชนทร์ นิทรัพย์ หรือฟู อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 323/425 ซอยสายไหม 33 หมู่บ้านกรุงทองธานี แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว
จากการสอบถามนายวีระ ศรีผ่อง หรือเต๋า กล่าวว่า ตนและเพื่อนชวนกันไปเที่ยวกันในสถานบันเทิง ชื่อร้านเดอะบ็อกซ์ แต่เกิดความเข้าใจผิดคิดว่ากลุ่มผู้ตายนั้นเป็นกลุ่มที่มาจีบผู้หญิงคนเดียวกันในสถานบันเทิง เมื่อเห็นกลุ่มผู้ตายพากันกลับออกไปจึงได้ออกมาจากร้านกันและขี่รถตามหาซึ่งตนเองเป็นคนชี้เป้าแต่ว่าชี้ผิดกลุ่ม โดยกลุ่มผู้ตายไม่ใช่กลุ่มที่ตนเองตามหาเนื่องจากตนเองขี่จักรยานยนต์ตามหลังมาแต่ห้ามไม่ทันแล้ว หลังเกิดเหตุตนและเพื่อนต่างแยกย้ายกันหลบหนีกระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้
พล.ต.ต.ศานิตย์กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งดูดาย ชุดสืบสวนได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุจนกระทั่งทราบตัวคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิด และติดตามจับกุมได้ 1 คน ส่วนอีก 2 คนยังคงหลบหนี ก็ขอให้ติดต่อเข้ามอบตัว และอยากให้ผู้ปกครองของผู้ต้องหาพาเข้ามอบตัว โทษหนักจะเป็นเบา พร้อมกับกำชับเรื่องการดื่มสุราทำให้ขาดสติทำสิ่งใดไม่ยั้งคิด ส่วนการเปิด-ปิดสถานบันเทิงในเวลากลางคืนก็ให้เจ้าหน้าที่เข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพกล้องวงจรปิดภายในร้านเดอะบ็อกซ์ซึ่งเป็นที่ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุไปนั่งดื่มกันก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่ากลุ่มของผู้ตายเข้ามาในร้านเวลา 03.40 น.คืนวันที่ 30 พฤษภาคม และออกไปจากร้านเวลา 05.03 น.คืนเดียวกัน เมื่อกลุ่มของผู้ตายเดินออกจากร้านกลุ่มของผู้ก่อเหตุก็ได้เดินตามไปติดๆ จากนั้นกลุ่มผู้ตายได้ขี่จักรยานยนต์ไปโดยนั่งไปคันเดียวกันทั้ง 4 คน และกลุ่มคนร้ายได้ขี่รถตามออกไป จนกระทั่งชักอาวุธปืนยิง 1 นัด ก่อนตามไปรุมแทงกันอีกรอบหนึ่งจนเป็นเหตุให้กลุ่มนักศึกษาบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว