ผบ.ตร.พร้อมดูแลปัญหาโรฮีนจาตามหลักสากล ยอมรับมีผู้อพยพที่อยู่ในการควบคุมของ สตม.ประมาณ 318 คน เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมแก้ไขปัญหาชาวโรฮีนจาร่วมกันทั้ง 15 ประเทศ
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาผู้อพยพชาวโรฮีนจาว่า ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับกับการหาแนวทางแก้ไขปัญหาชาวโรฮีนจาร่วมกันทั้ง 15 ประเทศ โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 29 พ.ค.นี้ เชื่อว่าจะสามารถหาทางออกในเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหานั้นต้องแยกชาวโรฮีนจาออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ยังไม่ได้เข้ามาในเขตแดนของประเทศไทย กลุ่มนี้ก็ถือว่ามีสิทธิ์ที่จะลอยลำอยู่ในน่านน้ำสากลเพื่อรอความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้มีประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียที่อาสาจะรับชาวโรฮีนจาขึ้นฝั่งแล้วจึงถือเป็นเรื่องที่ดี และอีกกลุ่มคือกลุ่มที่เข้ามาในเขตแดนและอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นไปตามหลักสากล
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะนี้มีชาวโรฮีนจาที่อยู่ในการควบคุมของ สตม.ประมาณ 318 คน ซึ่งเราจะปฏิบัติตามหลักมนุษยชนสากลเพื่อรอดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่งคง ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยระหว่างนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการเร่งพิสูจน์สัญชาติชาวโรฮีนจาที่อยู่ในการควบคุมทั้งหมด เพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจที่ถูกสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.ก่อนหน้านี้ ผบ.ตร.กล่าวว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนของจเรตำรวจเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่านายตำรวจกลุ่มดังกล่าวที่ถูกเรียกตัวมานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจานี้หรือไม่ หากพบว่ามีหลักฐานชัดเจนว่ามีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดไม่มีละเว้น