ศาลอาญามีคำสั่งชันสูตรพลิกศพ ไม่ชี้ชัดใครยิง “วสุ สุฉันทบุตร” นักศึกษา ป.โท แนวร่วม คปท. เหตุม็อบปะทะตำรวจที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ปี 56
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 708 ศาลนัดฟังคำสั่งการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ หมายเลขดำ อช.2 /2557 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นผู้ยื่นคำร้องให้ไต่สวนการตายของนายวสุ สุฉันทบุตร นักศึกษาปริญญาโท ผู้ชุมนุมแนวร่วมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ถูกยิงเสียชีวิตจากการเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหนเมื่อใด สาเหตุและพฤติการณ์การตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาและมีพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการทั่วไป ในวันที่ 2 ก.พ. 2557 ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงกำหนดให้วันที่ 26 ธ.ค. 2556 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุดังกล่าว เป็นวันที่จัดให้มีการดำเนินจัดการรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และจับฉลากเพื่อเลือกหมายเลขในการเลือกตั้ง โดยในวันนั้นมีผู้ชุมนุมกลุ่ม แนวร่วมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาชุมนุมที่หน้าสนามไทย-ญี่ปุ่นดินแดง
ขณะที่รัฐบาลรักษาการณ์ขณะนั้นได้สั่งการให้มีการเตรียมความพร้อม โดย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.ได้จัดกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 16 กองร้อยจากที่ต่างๆ เช่น กองร้อยประจวบคีรีขันธ์ พะเยา นครสวรรค์ มาควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 2556 บริเวณรอบสนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลความสงบเรียบร้อยแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีน้ำเงินล้วนและผ้าพันคอหลากสีตามสังกัด โดยช่วงเช้าในวันที่ 26 ธ.ค. 2556 ได้เกิดการผลักดันกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยร่นเข้าไปเข้าไปในอาคารสนามกีฬา และที่ตึกกระทรวงแรงงาน หลังจากนั้นในช่วงบ่ายได้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่โดยมีเสียงปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด
ทั้งนี้ มีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์หลายปากเบิกความว่า หลังจากที่มีเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้พากันเดินไปยังตึกกระทรวงแรงงาน โดยผู้ตายกับเพื่อนผู้ชุมนุมประมาณ 3 คนได้เดินเท้าอยู่บริเวณทางเดินหน้าสำนักงานประกันสังคม ลักษณะเดินก้มต่ำ และใช้ป้ายวงกลมชี้ทางเป็นที่หลบกำบัง หลังจากนั้นพยานได้ยินเสียงปืนดังมาจากหน้าประตูทางเข้าประตู 6 จำนวน 2 นัด ต่อมาทราบว่านายวสุถูกยิงได้รับบาดเจ็บและล้มลง โดยมีชาย 2 คนที่อยู่กับนายวสุได้ตะโกนว่า “ยังมีตำรวจอยู่บนชั้น 2” และหลังจากนั้นผู้ชุมนุมได้เข้าไปช่วยพยุงและพานายวสุส่งโรงพยาบาล กระทั่งนายวสุได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2556 เวลา 03.35 น.
นอกจากนี้ยังมีพยานที่เป็นแพทย์ผู้ชันสูตรศพผู้ตายเบิกความว่า ผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน ลักษณะฉีกขาดขนาด 1 ซม. ขอบไม่เรียบ เข้าได้กับหัวกระสุนปืนที่เป็นทางเข้า และมีบาดแผลลักษณะฉีกขาดที่กระสุนออกอีก 1 รู ซึ่งกระสุนทะลุบริเวณใต้ท้องชายโครงด้านหน้าฝั่งซ้ายทะลุออกหลังฝั่งขวา แต่ไม่พบเขม่าดินปืน ผลของกระสุนทำลายช่วงบริเวณช่องท้องอันเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตจากคำเบิกความเบิกความเชื่อได้ว่าพยานเบิกความตามความเป็นจริง ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน
เห็นว่าเหตุและพฤติการณ์แห่งการตายของผู้ตายถูกยิงจากกระสุนปืนบริเวณทางเดินที่หน้าสำนักงานประกันสังคม แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีประจักษ์พยานเบิกความชี้ชัดว่าผู้ลงมือกระทำเป็นใคร จึงมีคำสั่งว่า นายวสุผู้ตายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากจากถูกกระสุนปืนจากกลุ่มคนร้าย แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำ โดยมีบาดเเผลถูกยิงบริเวณหน้าท้องใต้ชายโครงด้านซ้าย กระสุนทะลุจากหน้าไปหลังซ้ายทะลุขวา ส่งผลให้อวัยวะภายในช่องท้องถูกทำลายและเสียเลือดมากเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ภายหลัง นางทิพย์อาภา สุฉันทบุตร มารดาผู้ตายกล่าว ภายหลังฟังคำสั่งว่า น้อมรับคำสั่งศาลในวันนี้ ศาลมีคำสั่งว่าลูกชายเสียชีวิตจากกระสุนปืนแต่ไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าผู้ใดลงมือกระทำ หลังจากนี้ก็ฝากไปถึงกระบวนการยุติธรรมในชั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้หาคนผิดมาลงโทษ เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตหลายคนก็ยังหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม ฝากไปถึงประชาชนหรือผู้ที่มีข้อมูลเบาะแสที่จะชี้ชัดไปถึงผู้กระทำความผิดได้ถ้าเข้ามาให้ข้อมูลที่สามารถชี้ชัดได้ก็ยังยืนยันว่าจะให้เงินรางวัล 1 ล้านบาท ในส่วนของคดีนี้ก็เคยได้ไปยื่นฟ้องสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาก่อนหน้านี้ซึ่งศาลปกครองได้มีคำสั่งยกคำร้องเนื่องจากคดีไม่ได้อยู่ในอำนาจศาลปกครอง ก็คงจะต้องนำคดีมาดำเนินการในศาลยุติธรรมต่อไป