ASTVผู้จัดการ - กองปราบฯ รวบแก๊งหลอกเช่ารถแล้วเชิดหนีแล้วนำไปประกาศขายผ่านเว็บไซต์ “รถหลุดจำนำราคาถูก” ตำรวจล่อซื้อจับได้ระหว่างนำรถมาส่งมอบ ขยายผลเจอรถของกลางอีกกว่า 7 คัน มีตั้งแต่รถเล็กมิราจไปจนถึงเบนซ์ อ้างติดต่อซื้อขายผ่านไลน์มา
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุมแก๊งหลอกเช่ารถแล้วนำไปขายทางเว็บไซต์ ประกอบด้วย นายเศรษฐกิจ ศรัทธานุศาสตร์ อายุ 43 ปี, นายชัยพัทธ์ อติวงศ์พิทักษ์ อายุ 33 ปี และ น.ส.อิสรีย์ บุญชู อายุ 26 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีแดง ทะเบียน ขน 6209 เชียงใหม่, รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า พริอุส สีดำ ทะเบียน ญณ 8078 กทม., รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีดำ ทะเบียน ฆว 3797 กทม., รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน อามิร่า สีขาว ทะเบียน กย 9208 ระยอง, รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เฟียสต้า เอ็กซ์ ทะเบียน ญฮ 1975 กทม., รถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน กท 8857 ราชบุรี, รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กร 9973 นนทบุรี และรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว ทะเบียน ฆส 5384 กทม. โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเอ็มทีอารีน่า ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 36/18 ซอยลำลูกกา 11/11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ให้ช่วยสืบสวนติดตามรถยนต์ซึ่งถูกมิจฉาชีพออกอุบายเช่ารถแล้วนำไปขายต่อจนได้รับความเดือดร้อน โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความไว้ตามท้องที่เกิดเหตุแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้า
ต่อมาหนึ่งในผู้เสียหายได้พบข้อมูลประกาศขายรถในเว็บไซต์ที่ชื่อ “รถหลุดจำนำราคาถูก” โดยพบประกาศขายรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีแดง ซึ่งรูปลักษณ์ทั้งภายในและภายนอกนั้นทางผู้เสียหายรายนี้จดจำได้อย่างแม่นยำว่าเป็นรถของตน จากนั้นชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ทราบได้วางแผนติดต่อล่อซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากเจ้าของเว็บไซต์ที่ประกาศขาย และทิ้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ โดยผู้เสนอขายคือ นายเศรษฐกิจ และ น.ส.อิสรีย์ ในราคา 99,000 บาท โอนเงินล่วงหน้า 5,000 บาท ส่วนที่เหลือให้ชำระเมื่อมีการส่งมอบรถกันแล้ว
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวต่อว่า จากนั้นได้นัดหมายส่งมอบรถกันที่ห้างสรรพสินค้าเอ็มที อารีน่า ต.คูคต อ.ลำลูกกา จากนั้นนายชัยพัทธ์ ผู้ต้องหาได้ขับรถคันดังกล่าวมา โดยเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม จากการสอบสวนเบื้องต้นนายชัยพัทธ์รับสารภาพว่า นอกจากรถยนต์คันดังกล่าวแล้วยังมีรถที่ได้มาโดยมิชอบพร้อมที่นำออกขายให้ลูกค้าอีก 7 คัน จอดไว้ที่บ้านพักเลขที่ 36/18 ซอยลำลูกกา 11/11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จึงมีการขยายผลเข้าตรวจยึดรถทั้งหมดไว้ได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบกุญแจรถ และเอกสารสำเนาบัตรประชาชนผู้อื่นเป็นจำนวนมากจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันรับของโจร ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด และข้อหาปลอมเอกสารราชการ นอกจากนี้ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อนายเศรษฐกิจในความผิดฐานมีและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ผู้อื่นโดยมิชอบ
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพในความผิดฐานร่วมกันรับของโจร แต่ปฏิเสธข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม โดยระบุว่าได้ติดต่อซื้อรถยนต์ของกลางจากเครือข่ายที่ซื้อขายรถมือสองผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยไม่ทราบว่าเป็นรถของผู้เสียหาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยจะเร่งสืบสวนขยายผลการจับกุมไปยังเครือข่ายผู้กระทำความผิดเนื่องจากเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย ส่วนรถยนต์ของกลางที่ตรวจยึดไว้ได้ประสานไปยังผู้เสียหายเพื่อตรวจสอบและยืนยันความเป็นเจ้าของก่อนส่งมอบคืนต่อไป
