xs
xsm
sm
md
lg

ตม.จับปากีฯ ปลอมพาสปอร์ตให้แก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตม.แถลงจับปากีฯ ปลอมหนังสือเดินทางให้กลุ่มอาชญากรรมตะวันออกกลาง รวบหนุ่มฝรั่งเศสหลบหนีคดี และจับเกาหลีใต้ลักลอบเปิดให้เล่นพนันออนไลน์ย่านพัฒนาการ พร้อมเงินสด 6 หมื่นบาท

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (9 เม.ย.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. และพ.ต.อ.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รอง ผบก.สส.สตม.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติจำนวน 6 คดี

คดีแรก เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายอับดุล กานนี หรือบาบู ราฟิค อายุ 60 ปี สัญชาติปากีสถาน ได้เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายอับดุลกานนี่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายและปลอมแปลงหนังสือเดินทางปลอม รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางปลอมอื่นๆ ให้กับกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมชาวอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดลักลอบไปประเทศที่สาม หรือแม้แต่กลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ มานานกว่า 20 ปี แล้ว และยังรับซื้อหนังสือเดินทางที่ถูกขโมยเพื่อนำมาปลอมแปลง รวมไปถึงการผลิตหนังสือเดินทางปลอมประเทศต่างๆ ขึ้นมาใหม่ เช่น ชิลี, อาร์เจนตินา, มอลตา, กรีซ, อิตาลี, ไซปรัส, ฝรั่งเศส ฯลฯ จึงได้นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.30/2558 ลง 3 เม.ย. 2558 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 202/7 ซ.เจริญกรุง 99 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. ผลการตรวจค้นพบเครื่องคอมพิวเตอร์, เครื่องพิมพ์, กระดาษ และอุปกรณ์การปลอมแปลงต่างๆ นอกจากนี้ยังพบข้อมูลภาพหนังสือเดินทางและวีซ่าของประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นภาพที่ใช้สำหรับการปลอมแปลง เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียด และขยายผลกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไป

คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายสเตฟาน รูแลง (STEPHANE JACQUES ROULIN) สัญชาติฝรั่งเศส จากบริเวณหมู่เกาะบุโหลนเล อ.ละงู จ.สตูล ได้เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากได้รับการประสานสถานทูตฝรั่งเศสให้สืบสวนติดตามตัวนายสเตฟาน รูแลง เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลเมืองมงปอลิเยร์ ประเทศฝรั่งเศส ในความผิดเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง โดยนายสเตฟานเปิดเว็บไซต์ใช้ชื่อว่า AUTO SCOUT ภายใต้การจดทะเบียนบริษัทประเทศเยอรมันชื่อ AUTO PRESTIGE ขายรถยนต์หรูยี่ห้อต่างๆ เมื่อมีผู้สนใจจะทำสัญญาให้วางมัดจำไว้ แต่ปรากฏว่านายสเตฟานไม่มีรถยนต์ขายให้จริงและได้หลบหนีออกนอกประเทศไป เบื้องต้นทางการฝรั่งเศสตรวจพบความเสียหายมูลค่าประมาณ 100,000 ยูโร และยังคงมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความเอาผิดอีกจำนวนมาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขยายผล และเว็บไซต์ดังกล่าวได้ถูกทางการฝรั่งเศสปิดแล้ว เบื้องต้นได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและส่งกลับประเทศฝรั่งเศสเพื่อดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายตูกกา ทาพิโอ เราตาจูวี (Tuukka TAPIO Rautajuuri) อายุ 54 ปี สัญชาติฟินแลนด์ ได้ที่บริเวณ บจก.ดูมุมโฮลดิ้ง ถ.ทัพพระยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศักดากล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานฝ่ายกิจการตำรวจและศุลกากรกลุ่มประเทศนอร์ดิคให้สืบสวนติดตามตัวนายตูกกาซึ่งเป็นบุคคลที่มีหมายจับตำรวจสากล (Red notice Interpol) และเป็นบุคคลที่ทางการประเทศฟินแลนด์ต้องการตัว เนื่องจากถูกกล่าวหาในความผิดเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงและหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีให้แก่รัฐบาล มูลค่าความเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท แล้วหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย เบื้องต้นทำการการจับกุมฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนเตรียมส่งตัวกลับประเทศฟินแลนด์เพื่อกลับไปดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 4 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายโจเซฟ โคเฮน (JOSEF COHEN) อายุ 60 ปี สัญชาติอเมริกัน เป็นบุคคลตามหมายจับของสำนักงานตำรวจลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ในความผิดเกี่ยวกับการพยายามทำร้ายร่างการโดยใช้อาวุธร้ายแรง ได้ที่บริเวณทางเดินหน้าอาคารอัสสกาญจน์เพลสคอนโด เลขที่ 9 อาคาร 14 ห้อง 9/71 ชั้น 6 ซ.รามคำแหง 105/1 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานงานจาก สอท.สหรัฐอเมริกาว่านายโจเซฟหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย จึงได้ทำการสืบสวนจนกระทั่างสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับโดยศาลประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้ควบคุมตัวไว้เพื่อรอการส่งกลับไปเพื่อดำเนินคดีในประเทศหรัฐอเมริกาต่อไป

คดีที่ 5 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายโกซิซ ซาโบลซ์ ลาสโล (KOCSIS Szabolcs Laszlo) อายุ 41 ปี สัญชาติฮังการี ผู้ต้องหาในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลประเทศฮังการี ในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติดโดยผิดกฏหมาย (ประเภทกัญชา) ได้ที่บ้านเลขที่ 32/6 ม.9 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากนายโกซิซ มีพฤติการณ์ลักลอบขนกัญชาจากประเทศเนเธอร์แลนด์เข้ามาจำหน่ายในประเทศฮังการีรวม 7 ครั้ง น้ำหนักรวม 35 กิโลกรัม นายโกซิซจึงได้หลบหนีออกนอกประเทศเข้ามากบดานในประเทศไทย ซึ่งความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้เพื่อรอการส่งกลับไปเพื่อดำเนินคดีในประเทศต่อไป

คดีที่ 6 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแก๊งการพนันออนไลน์ชาวเกาหลีใต้ 6 คน คือ นายโอ ซังกิ (MR.OH SUNGKI) อายุ 36 ปี นาย ลี มีซุง (MR.LEE MISUNG) อายุ 38 ปี นายโอ จองยุบ (MR.OH JUNGHYUP) อายุ 36 ปี นายโย โอยุน (MR.YOO HOHYUN) อายุ 35 ปี นายแบ็ค ชุนวู (MR.BACK CHULWOO) อายุ 34 ปี และนายฮา จุน (MR.HA JOON ) อายุ 36 ปี พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 7 ชุด แท็บเล็ต 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างประเทศ 12 เล่ม เครื่องรับรหัสการทำธุรกรรมทางการเงินของธนาคาร 39 อัน อุปกรณ์บันทึกข้อมูล (ทัมบ์ไดรฟ์ 17 อัน) และอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ฯลฯ โดยสามารถจับกุมได้ ที่ห้องหมายเลข D15B ชั้นที่ 15 อาคารนิติบุคคลอาคารชุดฟลอร่า วิลล์ เลขที่ 14 ซอยพัฒนาการ 51 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศักดากล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.2 บก.ตม.1 ได้รับแจ้งจากผู้จัดการอาคารนิติบุคคลดังกล่าวว่ามีคนต่างด้าวที่เข้าพักอาศัยในอาคารชุดดังกล่าวโดยมีพฤติการณ์น่าสงสัย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนกระทั่งทราบว่ามีคนต่างด้าวชาวเกาหลีใต้ที่มาเปิดห้องพักอาศัยมีพฤติการณ์จับกลุ่มมั่วสุมน่าสงสัยว่าจะมีการกระทำการอันเป็นความผิด จึงเข้าตรวจสอบห้องดังกล่าวพบชาวเกาหลีใต้จำนวน 6 คนพร้อมของกลาง เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง

พล.ต.ท.ศักดากล่าวต่อว่า จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่าผู้ต้องหาทั้ง 6 รายได้กระทำการดังกล่าวจริงโดยจะเข้ามาเปิดห้องเช่าและเปิดให้มีการพนันทายผลฟุตบอลลีกประเทศเกาหลีใต้ (K-League) โดยการทายผลฟุตบอลนั้นจะมีเครื่องรับรหัสบัญชีสมาชิก (OTP) ในการเข้าสู่ระบบพนันทายผลฟุตบอลออนไลน์ดังกล่าวซึ่งมีสมาชิกอยู่ในระบบที่เป็นชาวเกาหลีประมาณ 100 ราย สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 6 รายนั้นจะได้รับค่าจ้างเดือนละ 2 ล้านวอน หรือประมาณ 6 หมื่นบาท โดยลักลอบเปิดและทำมาแล้วประมาณ 6 เดือน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพร้อมทั้งดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตและผลักดันกลับประเทศต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น