xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.มอบนโยบาย บช.ภ.7 เข้มปราบปรามค้ามนุษย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร. มอบนโยบาย บช.ภ.7 เข้มปราบปรามค้ามนุษย์ เนื่องจากมีหลายจังหวัดที่ติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกำชับเร่งล่าคนร้ายข่มขืนหญิงชราในหลายท้องที่ แต่ไม่มีหลักฐานอื่นที่จะชี้ชัดถึงตัวผู้กระทำความผิดได้

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.วรวงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้กับข้าราชการตำรวจภูธรภาค 7 โดยมี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 นำคณะนายตำรวจระดับสูงในสังกัด บช.ภ.7 ให้การต้อนรับ

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า วันนี้ ตนได้มอบนโยบายกับตำรวจภูธรภาค 7 กำชับนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดย บช.ภ.7 มีหลายจังหวัดที่ติดกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน อาจมีการลักลอบนำแรงงานที่ผิดกฎหมายเข้ามา ในขณะเดียวกัน ก็มีหลายจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับทะเล และประชาชนประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรม อาหารทะเล เรือประมง ตรงนี้ได้มอบนโยบายว่าเป็นเรื่องที่ตำรวจทุกคนต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะการค้าแรงงานผิดกฎหมายส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยถูกสหรัฐอเมริกา จัดอันดับให้อยู่ในระดับเทียร์ 3 และในยุโรปแจกใบเหลือง หรือ เตือนว่าการค้ามนุษย์ในเรือประมงจะส่งผลให้ประเทศเหล่านั้นไม่ซื้อสินค้า หรืออาหารทะเลจากประเทศไทย รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญมาก จึงประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ตนจึงต้องลงพื้นที่ บช.ภ.7 เพื่อกำชับ กำกับ และมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันสอดส่องดูแล หรือหามาตรการในการที่จะแก้ไขปัญหาในการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าแรงงานผิดกฎหมายในเรือประมง

“สิ่งที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกส่วนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ พยายามทำทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปราบปราม การบังคับใช้กฎหมาย ทำกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางสหรัฐฯ และยุโรป ได้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่นของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่จะแก้ปัญหานี้ จะไม่มีการละเว้นหรืองดเว้น หากเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือ สนับสนุน หรือหาประโยชน์จากการค้าแรงงงานที่ผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประกาศเรื่องนี้เลยว่า ถ้ามีข้าราชการ หรือหน่วยงานข้าราชการเข้าไปมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ เข้าไปสนับสนุนได้ประโยชน์จากการค้าแรงงานที่ผิดกฏหมาย จะลงโทษสถานหนัก ตรงนี้วันนี้ตนและคณะตั้งใจมาที่ภาค 7 เพราะตนรู้ว่าที่ภาค 7 มีพื้นที่ที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน มีพื้นที่ติดกับทะเล มีพื้นที่เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหารทะเล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเรือประมงที่เป็นที่จับตามองของทางสหรัฐฯและทางยุโรป” ผบ.ตร. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า หลังจากนี้จะเห็นการปราบปรามที่เข้มข้นขึ้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จริงๆ แล้วทางรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอดจะเห็นว่ามีการจับกุมการค้าแรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมาย หญิงชาวต่างชาติที่มาค้าประเวณีจำนวนหลายๆ ครั้ง แต่ทั้งนี้เพื่อยกระดับความสำคัญการเป็นวาระแห่งชาติเพื่อทำให้เห็นว่าความตั้งใจมีมาก มากถึงประกาศเป็นวาระแห่งชาติ

เมื่อถามต่อว่าปัญหาการค้ามนุษย์มีคนไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดปัญหาใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก็มีปัญหาทั้งคนไทยหรือคนต่างชาติเองที่เป็นคนนำแรงงานที่ผิดกฎหมายเหล่านี้เข้ามา แต่ทั้งนี้ อย่างที่บอกไม่ว่าใครจะเข้าไปเกี่ยวข้องถ้ามีเบาะแส ก็ต้องดำเนินการ ก็ต้องฝากไปถึงพี่น้องประชาชนและภาคเอกชนต้องให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐในการที่จะไม่ใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย และประชาชนที่จะช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยแจ้งข่าวแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปราบปราม ถ้าหากเรารักประเทศไทย รู้ว่าอะไรจะเกิดกับประเทศไทยต้องช่วยกัน

ต่อข้อถามว่ามาตรการต่างๆ ที่กำหนดเป็นนโยบาย มีความมั่นใจหรือไม่ว่าทำให้เราได้รับการยกระดับ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ส่วนนี้ตนตอบไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำแสดงให้เห็นว่าปัญหาที่ถูกหมักมายาวนาน อย่างที่ทาง นายกรัฐมนตรี บอกว่า เราถูกเตือนมาเป็น 10 ปีแล้ว ปัญหามันถูกหมักมายาวนาน แต่รัฐบาลนี้กำลังเข้ามาแก้ ส่วนการพิจารณาเป็นเรื่องของสหรัฐฯกับยุโรป

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการสืบสวนติดตามคนรายในคดีข่มขืน ฆ่าหญิงชราต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นครปฐม สมุทรสาคร และ สมุทรสงคราม ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้พยายามเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ที่ผ่านมา ตนเองก็ได้กำชับให้มีการสืบสวนจับกุม แต่ไม่ได้มีการกำหนดกะเกณฑ์ว่าต้องจับให้ได้วันนั้นวันนี้ เพราะว่าเคยพูดมาตลอดว่าการทำงานขอให้ตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง ทุ่มเทเสียสละ แต่เรื่องเวลาถ้าเราเร่งรัดเวลามากเกินไปอาจจะเกิดความผิดพลาดในภายหลังได้ ตนรู้ว่าตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งใจมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างกับตนเอง หากจับได้ก็ต้องจับแล้ว แต่ทีนี้ก็คงด้วยเหตุผลหลายประการ เพราะว่าเวลาเกิดเหตุต่างๆ มันไม่มีพยานหลักฐานจะนำไปสู่คนร้าย เพราะว่าที่เปลี่ยว คนสูงอายุ ไฟฟ้าส่องสว่างต่างๆ มันไม่สามารถที่จะเป็นพยานหลักฐานเพียงพอ ตอนนี้เท่าที่ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ถือว่าทุกท่านทุ่มเทเสียสละ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการกำชับอะไรในคดีนี้ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนให้อิสระผู้บังคับบัญชาที่กำกับดูแลพื้นที่ รวมทั้งพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในคดี เพราะเชื่อว่าทุกคนมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ เต็มที่แล้วก็ถือว่าต้องให้เกียรติ

เมื่อถามต่อว่าปัญหาคืออะไร ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน เรามีแค่หลักฐานที่สำคัญอย่างเดียวก็คือดีเอ็นเอของคนร้าย ขณะนี้ทีมสืบสวนและพนักงานสอบสวนได้ทุ่มเททำงาน ซึ่งมีการตรวจพิสูจน์ทราบดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย ตนคิดว่าไม่ต่ำกว่า 300 - 400 ราย ถือว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ทำคดีพยายามเต็มที่แล้ว เพราะว่าเราไม่มีหลักฐานอื่นที่จะชี้ชัดถึงตัวผู้กระทำความผิดได้ ก็อย่างที่บอกตัวผู้เสียหายเอง สถานที่เกิดเหตุ สิ่งแวดล้อมต่างๆ มันเป็นอุปสรรค

กำลังโหลดความคิดเห็น