สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 10 ตำรวจชุด ปส. สงขลา หลังผู้ต้องหาคดียาเสพติดผูกคอเสียชีวิตคาเซฟเฮาส์ ผลชันสูตรพบกระดูกซี่โครงหัก 4 ซี่ ปอดฉีก ขณะผลสอบข้อเท็จจริงพบมีมูล มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน 3 แสน พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร ที่ปรึกษา (สบ10) ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ลงนามในคำสั่ง ตร. ที่ 187/2558 ลงวันที่ 3 เมษายน 2558 เรื่องตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยระบุว่า ด้วยตำรวจภูธรภาค 9 มีคำสั่งที่ 119/2558 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2558 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณี พ.ต.ท.ธวัชชัย ซุ้นเจริญ สวป.สภ.คลองแงะ จ.สงขลา หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด บก.ภ.จว.สงขลา กับพวกกรณีจับกุม นายธีระพัฒน์ เสรีเกียรติดิลก ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และต่อมาผู้ต้่องหาเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า พฤติการณ์และการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.ภ.จว.สงขลา ดังต่อไปนี้ มีมูลความผิดวินัยร้ายแรง 1. พ.ต.ท.เธนศ พงษ์รอด สว.สส. กก.สส.ภ.จว.สงขลา 2. พ.ต.ท.ธวัชชัย ซุ้นเจริญ สวป.สภ.คลองแงะ จ.สงขลา 3. ร.ต.อ.ยอดนิพัฒน์ โส๊ะขาว รองสวป.สภ.สะเดา จ.สงขลา 4. ด.ต.สุรศักดิ์ แสงดี ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.เมืองสงขลา 5. ด.ต.พงษ์ บุญโรจน์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองสงขลา 6. ด.ต.จรงค์ สุทธิชล ผบหมู่งานสืบสวน สภ.เมืองสงขลา 7. ด.ต.สมชาย เรืองช่วย ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.ชุมพล จ.สงขลา 8. ด.ต.ประจักษ์ สิริพร ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.ม่วงขาม จ.สงขลา 9. ด.ต.พิทยา แสงเอียด ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.คอหงส์ จ.สงขลา และ 10. ด.ต.เชิดชัย พรรณราย ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.สะเดา
โดยมีพฤติการณ์และการกระทำ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธเนศ กับพวกได้ร่วมกันจับกุมนายธีระพัฒน์ เสรีเกียรติดิลก พร้อมของกลางยาไอซ์ จากนั้นนำตัวไปควบคุมไว้ที่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 5 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 7 - 9 มี.ค. 2558 มิได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ระหว่างที่นายธีระพัฒน์ ถูกควบคุมตัวอยู่นั้นได้มีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อช่วยเหลือ นายธีระพัฒน์ ให้ได้รับการปล่อยตัว โดยมีนายเอ๋ มารับเงินจำนวนดังกล่าว ต่อมาภายหลังนายธีระพัฒน์ ได้ถึงแก่ความตายระหว่างควบคุมตัว มีผู้หญิงชื่อ พี่สาว นำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนให้กับนายสมชัย เสรีเกียรติดิลก และจากการตรวจชันสูตรพลิกศพนายธีระพัฒน์ พบว่า มีกระดูกซี่โครงหักจำนวน 4 ซี่ ปอดมีรอยฉีกขาดประมาณ 2 เซนติเมตร
จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อทำการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว โดยให้ พล.ต.ต.จักรกฤษศณ์ สิงห์ศิลารักษ์ รองจเรตำรวจ (สบ7) เป็นประธานคณะกรรมการ มีกรรมการประกอบด้วย พ.ต.อ.ชยธวัช เสาวนะ รองผบก.กต.9 พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผกก.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กต.9 พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ชาลประเสริฐ สว.ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กต.9 เป็นกรรมการและเลขานุการ และ ร.ต.ท.อภินัทธ์ ใจวัฒโน รอง สว. ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กต.9 เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. 2547 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสอบสวนเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องอื่นที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสอบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นร่วมกระทำการในเรื่องที่สอบสวนนั้นอยู่ด้วยให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ชัยยง ได้ลงนามในคำสั่ง ตร.ที่ 188/2558 ลงวันที่ 3 เมษายน 2558 ให้ตำรวจทั้ง 10 นายออกจากราชการไว้ก่อน โดยระบุว่า ข้าราชการตำรวจดังกล่าวถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 187/2558 ลงวันที่ 3 เม.ย. 2558 และมีเหตุให้พักราชการตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและสั่งให้ออกจากราชลการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ข้อ 3(1) คือ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญาอาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว จึงให้นายตำรวจทั้ง 10 นายออกจากราชการไว้ก่อน