xs
xsm
sm
md
lg

“ป้าเช็ง น้ำหมัก” ได้รับพระราชทานอภัยโทษพร้อมนักโทษ 99 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ป้าเช็ง ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำหมักมหาบำบัด และยาหยอดตาเจียรนัยเพชร ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ช่อง ซุปเปอร์เช็ง (แฟ้มภาพ)
ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลางเผยปล่อยตัวผู้ต้องโทษ 99 ราย หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ หนึ่งในนั้นมี “ป้าเช็ง น้ำหมัก” ด้วย

วันนี้ (3 เม.ย.) นางสิริพร ชุติกุลัง ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เผยว่า ภายหลังที่ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 30 มี.ค. 58 เรื่องพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ 2 เมษายน 58 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทัณฑสถานหญิงกลางมีผู้ต้องขังหญิงที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการอภัยโทษ และถูกปล่อยตัวในวันนี้จำนวน 99 ราย โดยหนึ่งในนั้นมี น.ส.ศรวรรณ ศิริสุนทรินทร์ หรือป้าเช็ง อายุ 74 ปี ผู้ต้องโทษคดี ฐานขายยาหยอดตาเจียรนัยเพชรโดยไม่ได้ขึ้นตำรับยาทำให้ผู้ใช้ตาบอด ที่ศาลสั่งจำคุก 18 เดือน แถมยังต้องขึ้นศาลอีก 3 คดี ฐานผลิตและจำหน่ายยาหยอดตาเจียรนัยเพชร และยาน้ำมหาบำบัด ผ่านทีวีดาวเทียมช่อง Super Cheng โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาเมื่อปี 56 ได้รับการอภัยโทษด้วย

ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลางกล่าวว่า ระหว่างที่ป้าเช็งถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางในส่วนผู้ต้องขังสูงอายุนั้น ปฏิบัติตัวดี เป็นคนอารมณ์ดีตลอด และเป็นที่รักของผู้ต้องขังรายอื่นๆ แต่ป้าเช็งไม่ได้สอนวิธีทำน้ำหมักให้เลยเนื่องจากได้รับโทษไม่นาน

ทั้งนี้ เมื่อปี 56 เจ้าหน้าที่ บก.ปคบ.ได้ดำเนินคดีต่อป้าเช็งทั้งหมด 5 คดี โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล 3 คดี และศาลมีคำพิพากษาแล้ว 2 คดี ดังนี้ 1. คดีอาญาที่ 15/2553 เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกองการประกอบโรคศิลปะ เข้าตรวจค้นบ้านป้าเช็ง เมื่อ 21 ม.ค. 2553 แล้วจับกุมตัวป้าเช็งกับพวกรวม 7 คน ไว้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันผลิตและขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ทั้งนี้ ผลการดำเนินการพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็น ควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดธัญบุรีมีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดธัญบุรี

2. คดีอาญาที่ 17/2553 เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ อย. และกองการประกอบโรคศิลปะ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อ 26 ม.ค. 2553 ให้ดำเนินคดีกับป้าเช็งเพิ่มเติม จำนวน 4 ข้อหา คือ โฆษณาขายยาทางวิทยุ โทรทัศน์ โดยไม่ได้รับอนุมัติข้อความ เสียง หรือภาพที่ใช้ในการโฆษณาจากผู้อนุญาต, โฆษณาขายยาโดยแสดงสรรพคุณยาว่าสามารถบำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรืออาการของโรคที่รัฐมนตรีประกาศ,ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดย ไม่ได้รับอนุญาต และประกอบโรคศิลปะโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต ซึ่งผลการดำเนินการพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็น ควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดธัญบุรีมีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงาน สอบสวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดธัญบุรี

3. คดีอาญาที่ 21/2553 เป็นกรณีนายสมชาย เถื่อนศรี ผู้เสียหายได้ใช้ยาหยอดตาเจียรนัยเพชรของป้าเช็งไปทำการหยอดตาจนตาบอด ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อ 12 ก.พ. 2553 ให้ดำเนินคดีต่อป้าเช็งในข้อหาขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ

โดยล่าสุดผลการดำเนินการ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็น ควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดพัทยามีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดพัทยา
4. คดีอาญาที่ 24/2553 กรณีนายสุทิน ชมกลิ่น ผู้เสียหายได้ใช้ยาหยอดตาเจียรนัยเพชรของป้าเช็งไปทำการหยอดตาจนตาบอด ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.เมื่อ 19 ก.พ. 2553 ให้ดำเนินคดีต่อป้าเช็ง ข้อหาขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา

และ 5. คดีอาญาที่ 25/2553 กรณีนางทิพย์อุทัย ศุภบุญมี ผู้เสียหายได้ใช้ยาหยอดตาเจียรนัยเพชรของป้าเช็งไปทำการหยอดตาแล้วดวงตาพร่ามัว ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อ 19 ก.พ. 2553 ให้ดำเนินคดีต่อป้าเช็งข้อหาขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ผลการดำเนินการพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็นควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดธัญบุรี มีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ต่อมาศาลจังหวัดธัญบุรีได้มีคำสั่งให้รวมคดีและมีคำพิพากษาทั้งสองคดีดังกล่าวแล้ว โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ให้จำคุกรวม 18 เดือน ริบของกลาง ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1360/2555 และที่ 1361/2555 ลง 18 มี.ค. 2555
กำลังโหลดความคิดเห็น