xs
xsm
sm
md
lg

“ถวิล พึ่งมา” ฟ้องอดีต ผจก.แบงก์ ใส่ความโกงเงิน สจล.เรียก 3 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล) พร้อม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ
“ถวิล พึ่งมา” อดีตอธิบการบดี สจล. ยื่นฟ้อง “ทรงกลด ศรีประสงค์” อดีตผู้จัดการแบงก์ ทั้งอาญาและแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 3 ล้าน ฐานแจ้งความเท็จ กรณีซัดทอดเอี่ยวโกงเงินในบัญชี ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ 29 มิ.ย. นี้

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (31 มี.ค.) นายถวิล พึ่งมา อายุ 61 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ เดินทางมายื่นฟ้อง นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุวินทวงศ์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน เพื่อจะแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา

โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. - 24 ก.พ. 2558 จำเลยได้กระทำความผิดต่อกฎหมายอันเป็นความผิดทางอาญา คือ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งอาจทำให้โจทก์เสียหาย แก่ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก, พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงศ์, ร.ต.ท.ไพทูล จ้อยสระคู พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่า โจทก์เป็นผู้สนับสนุน ยุยง ส่งเสริม หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่จำเลย อันเป็นตัวการร่วมในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์, ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม, เป็นเจ้าพนักงานงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีหน้าที่ซื้อ ทำ หรือจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด, เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริต” โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่แจ้งแก่คณะพนักงานสอบสวนกองปราบนั้นเป็นความเท็จ ซึ่งความจริงแล้วเป็นการกระทำของจำเลยกับพวก โดยที่โจทก์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งทรัพย์สินของโจทก์ก็มิได้เพิ่มขึ้นจากเดิมแต่อย่างใด ซึ่งสามารถตรวจสอบจากการทำธุรกรรมต่างๆ ได้ นอกจากที่เป็นมรดกตกทอดมาตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 24 ก.พ. 2558 โจทก์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และโจทก์ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลจังหวัดมีนบุรี การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และทั้งชื่อเสียงเกียรติคุณ เหตุเกิดที่กองปราบปราม แขวงจอมพล เขตจตุจักร แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี และแขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม.

โดยขอให้ศาลลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง, 91, 137, 172, 173 และ 174 รวมทั้งขอให้ลงคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันรวม 3 ฉบับ เป็นเวลา 3 วัน

ทั้งนี้ ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดี อ.904/2558 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 29 มิ.ย. 2558 เวลา 13.30 น.

ขณะเดียวกัน โจทก์ยังได้นำมูลเหตุเดียวกันไปยื่นฟ้อง นายทรงกลด ศรีประสงค์ เป็นจำเลย ในคดีแพ่ง ฐานละเมิด เรียกค่าเสียหาย จำนวน 3,000,000 บาท ด้วย ซึ่งศาลรับฟ้องไว้เป็นคดี พ.1118/2558 และนัดชี้สองสถาน ในวันที่ 29 มิ.ย. นี้ เวลา 09.00 น.

ภายหลัง นายสงกานต์ กล่าวว่า มีหลักฐานการเปิดบัญชีกับทางธนาคาร ซึ่งพนักงานอัยการได้ยื่นต่อศาลไปแล้ว ว่า มีการแอบอ้างชื่อ นายถวิล พึ่งมา เพื่อใช้เปิดบัญชีกับทางธนาคารกว่า 200 บัญชี ทั้งที่ นายถวิล ไม่ได้ลงลายมือชื่อแต่อย่างใด ดังนั้น หลักฐานในส่วนนี้จึงค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการแอบอ้างทำให้เสียหาย โดยที่เราไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำผิด และทำให้มีความมั่นใจในการต่อสู้คดีในชั้นศาล

ขณะที่ นายถวิล พึ่งมา กล่าวว่า ได้ยื่นฟ้อง นายทรงกลด ศรีประสงค์ ทั้งในคดีแพ่งและอาญา เนื่องจากทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย ซึ่งยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ ว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดอย่างแน่นอน

กำลังโหลดความคิดเห็น