กองปราบปรามฝากขัง “ถวิล พึ่งมา” อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนฯ ลาดกระบัง และอาจารย์สองผู้ต้องหาคดีสนับสนุนลักทรัพย์เงินในบัญชีเสียหาย 1,000 ล้าน
ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ วันนี้ (24 ก.พ.) พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้นำตัวนายถวิล พึ่งมา อายุ 61 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และนายศรุต ราชบุรี อายุ 54 ปี อาจารย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ของ สจล.มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก โดยระบุในคำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2557 สจล.โดย น.ส.วรวรรณ สุวรรณกูฎ ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีนครินทร์ และน.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนการคลัง สจล. กรณีเมื่อวันที่ 1-2 ต.ค. 2557 ที่กลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ของ สจล.ทำให้ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,075,037,702 บาท
จากข้อพิรุธและความผิดปกติของบัญชีเงินฝากธนาคารของ สจล.ที่ได้ตรวจสอบพบว่า นายถวิล พึ่งมา น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน ส่วนนายศรุตน่าจะเกี่ยวข้องฐานร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อ, จัดซื้อหรือจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริตและร่วมกันฟอกเงิน ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานบุคคลอีก 15 ปาก และเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น และรอผลการตรวจสอบการต้องโทษของผู้ต้องหาข้างต้น ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. - 7 มี.ค.นี้
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองได้ ต่อมาญาตินายถวิล พึ่งมา ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน เพื่อขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายถวิลประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 5 ล้านบาท ส่วนนายศรุต ญาติเตรียมหลักทรัพย์ไม่ทัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายศรุตไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป
นายถวิล พึ่งมา เปิดเผยภายหลังศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีลักทรัพย์ สจล.และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งระหว่างที่ดำรงตำแหน่งมีเอกสารจำนวนมากที่ต้องเซ็นอนุมัติและจำไม่ได้ว่าเซ็นเอกสารอะไรไปบ้างปฏิเสธไม่ได้หากมีเอกสารบางส่วนเป็นลายเซ็นตนเอง ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าอาจมีการกลั่นแกล้งเกิดขึ้น เนื่องจากเงินหายไปก่อนที่ตนจะเข้ามาดำรงตำแหน่งและหลังพ้นจากตำแหน่งยังมีเงินของสถาบันสูญหายอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่าตนไม่มีอำนาจเปิด-ปิด บัญชี ทั้งก่อนและหลังดำรงตำแหน่ง
นายถวิล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเซ็นรับรองความประพฤตินายทรงกลดนั้นตน รู้จักกับนายทรงกลดในฐานะผู้ใช้บริการธนาคารสาขาสถาบันฯที่นายทรงกลด ทำงานอยู่ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดี ซึ่งการเซ็นรับรองความประพฤติให้นายทรงกลด เนื่องจากนายทรงกลดไม่ต้องการย้ายสาขาที่ทำงานเพราะบ้านไกลและไม่มีคนรู้จักหากย้ายที่ทำงาน จึงเซ็นรับรองความประพฤติให้ ซึ่งนายทรงกรดได้ขอใบรับรองจากตนเองเเละฝ่ายกองคลัง แต่ตามปกติตนมักเซ็นใบรับรองการทำงานให้กับนักศึกษาและเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว
"ยอมรับว่า กังวลใจที่มีชื่อเข้าไปพัวพันกับคดีลักทรัพย์ของสถาบันฯ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคายใจกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพราะเข้าใจว่าเป็นการโอนเงินเพื่อรับดอกเบี้ยสูงขึ้นเท่านั้น โดยไม่คาดคิดมาก่อนด้วยว่าจะถูกนายทรงกรดหลอกลวง ซึ่งหลังจากนี้จะต่อสู้คดีไปตามขั้นตอนของกฎหมายและยืนยันว่าไม่ฟ้องกลับใคร" นายถวิล กล่าว
ด้านทนายความส่วนตัวของนายถวิล เปิดเผยว่า เตรียมหลักทรัพย์เป็นฉโนดที่ดินมูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวตามที่ศาลตีราคาประกันไว้ โดยศาลจะเรียกนัดมารายงานตัวอีกครั้งวันที่ 16 เมษายนนี้
ด้านทนายความส่วนตัวของนายศรุต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะส่งตัวนายศรุตไปควบคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดมีนบุรีก่อนในวันพรุ่งนี้ ทีมทนายจะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้งเนื่องจากเตรียมหลักทรัพย์ไม่ทันตามเวลาที่ศาลกำหนด