xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยเจียง” พร้อมเจรจา “ฟาสต์ 7” ย้ำ “จาพนม” ยังติดสัญญา ไปแสดงเรื่องอื่นจะตามฟ้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“ทนายสุวัตร” รับมอบอำนาจ “เสี่ยเจียง” แจงเหตุฟ้อง “ฟาสต์ 7” ย้ำ “จาพนม” มีสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด ถึงปี 66 เผยเคยเตือน บ.สร้างหนัง ให้ขออนุญาตต้นสังกัดก่อน แต่ยังเงียบเฉย พร้อมยื่นทางเลือก มาเจรจาให้หนังฉายได้ตามปกติ เพื่อไม่กระทบคนดู หรือตัดฉากที่มี “จา” แสดงออก ย้ำถ้าไปแสดงเรื่องอื่นก็จะตามฟ้องอีก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (27 มี.ค.) ที่สำนักกฎหมายอรุณอัมรินทร์ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความรับมอบอำนาจจากนายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง ผู้ก่อตั้งบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมด้วย นายมนตรี อมรโรจน์วรวุฒิ ทนายความ ตัวแทนฝ่ายกฎหมายจากบริษัท สหมงคลฟิล์ม ร่วมกันแถลงข่าวในกรณีที่ บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานสหมงคลกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจภาพยนตร์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพนม หรือ ทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จา พนม อายุ 38 ปี, บริษัท ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทอำนวยการสร้างภาพยนตร์ Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือ ยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1 - 3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1,600 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีที่ได้ผิดสัญญาการแสดงกับ บริษัท สหมงคลฟิล์ม ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566

นายสุวัตร กล่าวว่า ในวันนี้ตนพร้อมด้วยนายมนตรีได้รับมอบอำนาจให้มาชี้แจ้งกับสื่อมวลชนถึงกรณีการฟ้องร้องดังกล่าว เนื่องจาก นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง จำเป็นต้องเข้ารับการทำกายภาพบำบัดขาจากแพทย์ จึงไม่สามารถเดินทางมาชี้แจ้งด้วยตนเอง ตนอยากจะขอชี้แจ้งว่ าจาพนมนั้นติดสัญญาว่าจ้างเป็นนักแสดงในสังกัดของ บริษัท สหมงคลฟิล์ม ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เซ็นสัญญากับบริษัท เราต้องจ่ายเงินเดือนให้จาพนม เดือนละ 50,000 บาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จาพนมได้ขอเบิก และได้มีการแสดงภาพยนตร์ของบริษัทมามาตลอด

กระทั่งมีการพูดคุยกันเรื่องการสร้างภาพยนตร์ “ไอ้หนุ่มกังนัม” ซึ่งจาพนมขอเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ดังกล่าวด้วยตัวเอง เสี่ยเจียงจึงยินยอม จากนั้นจาพนมได้เบิกเงินไปจำนวน 26 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในการสร้างภาพยนตร์ ต่อมาจาพนมได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้ดำเนินการสร้างภาพยนตร์ดังกล่าวต่อ ซึ่งทางบริษัทก็ยังคงจ่ายเงินเดือนให้จาพนมเข้าบัญชีตามปกติตลอดมา แต่เมื่อประมาณเดือน ก.ย. ปี 2556 ทางจาพนมได้ทำการปิดบัญชีที่เราจ่ายเงินเดือนให้ ทางฝ่ายกฎหมายจึงจำเป็นต้องนำเงินเดือนของจาพนม ไปวางไว้ที่สำนักงานกองทรัพย์กลาง กระทรวงยุติธรรม ทุกเดือนเพื่อแสดงว่าเราไม่ได้มีการผิดสัญญาและยังคงจ่ายเงินเดือนตามปกติทุกเดือน

นายสุวัตร กล่าวต่อว่า ต่อมาทางบริษัทได้ทราบว่าจาพนมจะเข้าแสดงภาพยนต์เรื่อง Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) ทางบริษัทได้ทำจดหมายชี้แจ้งไปยังบริษัทที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ว่า จาพนมยังติดสัญญาเป็นนักแสดงของบริษัทเราอยู่ หากจะร่วมแสดงด้วยต้องทำหนังสือขออนุญาตมายังบริษัทต้นสังกัดเสียก่อน แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา กระทั่งมีการโฆษณาว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าฉายโดยมีจาพนมร่วมแสดงด้วยจริงๆ เราจึงต้องดำเนินการฟ้องร้องเนื่องจากถือว่าเป็นการละเมิดสัญญาบริษัทอย่างชัดเจน และเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทโดยเราไม่มีทางเลือกอื่นที่จะกระทำได้ โดยทางบริษัทฟ้องร้องกับศาลในประเทศไทยจึงมีสิทธิแค่ระงับการฉายภาพยนตร์ในประเทศเท่านั้น สว่นประเทศอื่นๆ ไม่สามารถทำได้

นายสุวัตร กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้มีทางเลือก 3 ทาง คือ 1. ทางบริษัทที่สร้างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวและตัวจาพนมต้องเข้ามาเจรจากับบริษัท สหมงคลฟิล์ม เพื่อให้ภาพยนตร์สามารถเข้าฉายได้ตามปกติ 2. ตัดฉากที่มีจาพนมแสดงออกแล้วเข้าฉายตามปกติ 3. สู้คดีกันทางกฎหมาย ซึ่งตนเห็นว่าหากทำข้อที่ 3 ภาพยนตร์จะไม่สามารถเข้าฉายได้เลย อยากขอร้องให้มาเจรจากันเพื่อผู้บริโภคจะได้ไม่มีผลกระทบ ตอนนี้เสี่ยเจียงเองก็มีความกังวลกับกระแสด้านลบที่มีต่อบริษัทมาก แต่เรายืนยันว่าไม่มีทางเลือกใดที่จะทำได้ นอกจากนี้ จึงอยากเรียนขอให้ประชาชนเข้าใจในกระบวนการทางกฎหมาย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่จาพนมแสดงก็จะถูกฟ้องร้องใช่หรือไม่ นายสุวัตร ตอบว่า ตนจะตามฟ้องแน่นอน หากมีจาพนมแสดงโดยละเมิดสัญญาของบริษัท แต่ก็ต้องให้ทางฝ่ายกฎหมายตรวจสอบก่อนว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องมีจาพนมแสดงจริงหรือไม่ อย่างชัดเจน จึงจะสามารถฟ้องร้องได้เช่นเรื่องนี้ หากภาพยนตร์เรื่องอื่นที่จาพนมแสดงมีการตัดฉากที่จาพนมแสดงออก ก็จะไม่ทำการฟ้องร้อง เพราะถือว่าไม่ละเมิด เพื่อหาทางออก และเพื่อแฟนๆ ภาพยนตร์ทุกคน


กำลังโหลดความคิดเห็น