xs
xsm
sm
md
lg

คอหนังอด! ศาลแพ่งห้ามฉาย “ฟาสต์ 7” ในไทย หลัง “เสี่ยเจียง” ฟ้อง “จา พนม” ผิดสัญญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

จา พนม ในภาพยนตร์ Fast and Furious 7
ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ฉายภาพยนตร์ “ฟาสต์ 7” ในเมืองไทย หลัง “เสี่ยเจียง” ยื่นฟ้อง “จาพนม - ยูนิเวอร์แซล - ยูไอพี” ละเมิด ผิดสัญญาเรียกค่าเสียหาย 1.6 พันล้านบาท

วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความรับมอบอำนาจจาก นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง ผู้ก่อตั้งบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานสหมงคลกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจภาพยนตร์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพนม หรือ ทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จา พนม พระเอกภาพยนตร์คิวบู๊ชื่อดัง อายุ 38 ปี, บริษัท ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทอำนวยการสร้างภาพยนตร์ Fast and Furious 7 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาค 7) และบริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด หรือ ยูไอพี ประเทศไทย เป็นจำเลยที่ 1 - 3 เรื่องละเมิด ผิดสัญญา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1,600 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีที่ได้ผิดสัญญาการแสดงกับ บริษัท สหมงคลฟิล์ม ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566

นอกจากนี้ ฝ่ายโจทก์ยังได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ที่ นายพนม หรือ จา พนม จำเลยที่ 1 ได้ร่วมแสดงทั้งที่ยังมีภาระผูกพันกับสัญญาการแสดงกับบริษัท สหมงคลฟิล์ม ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวมีกำหนดฉายในประเทศไทยในวันที่ 1 เม.ย. นี้

ขณะที่ศาลพิจารณาคำร้องแล้วให้ดำเนินการไต่สวนทนายฝ่ายโจทก์ จนแล้วเสร็จเมื่อเวลา 17.00 น. โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีร่วมฟังการไต่สวน

หลังจากนั้น นายสุวัตร ทนายความบริษัท สหมงคลฟิลม์ เปิดเผยว่า หลังจากมีการไต่สวนแล้ว ศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโจทก์ โดยมีคำสั่งให้ระงับการฉายภาพยนตร์ Fast and Furious 7 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดี หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งคำสั่งศาลดังกล่าวนั้นมีผลระงับการฉายภาพยนตร์ภายในประเทศเท่านั้น โดยเหตุที่ต้องนำมาฟ้องต่อศาลแพ่งในวันนี้ และขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น เนื่องจากทราบว่าหนังเรื่องดังกล่าว จะเข้าฉายในรอบสื่อมวลชนในวันที่ 31 มี.ค. และรอบจริงในวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งการนำภาพยนตร์ที่ จา พนม แสดง แต่ยังติดสัญญากับสหมงคลฟิล์มมาฉายนั้น ถือเป็นการละเมิดสัญญา จึงได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,600 ล้านบาท โดย จา พนม ได้เซ็นสัญญากับสหมงคลฟิล์มไว้ เดือน ก.ค. 2556 และจะหมดสัญญาในปี 2566 ซึ่งค่าเสียหายที่เราเรียกไป ก็คำนวณมาจากการซื้อตัว จา พนม มาจากบริษัทอื่น รวมถึงการปลุกปั้นโปรโมตภาพยนตร์ต่างๆ กระทั่งมีชื่อเสียง ทั้งนี้ สำหรับการพิจารณาคดีหลักเรื่องการผิดสัญญาศาลก็ได้นัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดวันสืบพยานและประเด็นนำสืบในวันที่ 15 มิ.ย.

เมื่อถามว่าในเมื่อศาลมีคำสั่งระงับการฉายหนังจะมีผลกระทบต่อโรงภาพยนตร์ และฝ่ายจำเลยที่เตรียมจะฉายหนังหรือไม่ นายสุวัตร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการเจรจากัน หากบริษัทหรือโรงภาพยนตร์ต่างๆ ได้รับผลกระทบก็สามารถยื่นคัดค้าน หรือเข้ามาเจรจากันกับเราได้ ซึ่งแล้วแต่บริษัทหรือโรงภาพยนตร์ โดยเราพร้อมจะคุย หลังจากนี้ หากทั้งหมดเข้ามาเจรจาและถ้าตกลงกันได้ เราก็สามารถที่จะถอนฟ้องได้ตามขั้นตอน
กำลังโหลดความคิดเห็น