ASTV ผู้จัดการ - สาวซาเล้งแทบช็อก พบขยะถุงดำทิ้งไว้ข้างทาง มือล้วงเจออุปกรณ์ทางการแพทย์เปื้อนเลือด พร้อมซากคล้ายศพทารกจำนวนหลายร่าง และอวัยวะภายในเกลื่อน ชาวบ้านแตกตื่น ผวาซ้ำรอยวัดไผ่เงิน สุดท้ายพิสูจน์เป็นแค่เรซิน เครื่องในไก่ คาดเป็นของนักศึกษาใช้ถ่ายทำหนังส่งงานอาจารย์ก่อนทิ้งไว้เรี่ยราด
เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (3 มี.ค.) ร.ต.ท.กิตติภูมิ เกิดมั่น พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งพบถุงขยะต้องสงสัยบรรจุซากทารกจำนวนหลายร่างถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณด้านหน้าร้านเสริมสวยปองเพชรซาลอน หมู่บ้านดีเคซอย 1 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.ท.ทศพล โชติคุตร์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ สวป.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง ด้านล่างเปิดเป็นร้านเสริมสวย เลขที่ 45/358 หมู่บ้านดังกล่าว จากการตรวจสอบบริเวณจุดวางถังขยะหน้าบ้านพบกลุ่มชาวบ้านในซอยแตกตื่นออกมาดูถุงขยะขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 ใบ มีร่องรอยการเปิดปากถุงทั้ง 2 ใบรื้อค้น จนทำให้เห็นวัตถุบางอย่างคล้ายซากศพทารกอายุในครรภ์ประมาณ 2 เดือนซึ่งมีอวัยวะครบถ้วนจำนวนหลายร่าง พร้อมสายน้ำเกลือ ผ้าก๊อซและถุงมือแพทย์เปื้อนเลือด ตลอดจนมีอวัยวะเครื่องในคล้ายของมนุษย์พร้อมรกปนเลือดกระจัดกระจายล้นทะลักออกมาด้านนอกถุง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากจุดเกิดเหตุก่อนประสานให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช รีบรุดมาตรวจสอบเพื่อยืนยันเป็นการด่วน
จากการสอบสวน น.ส.อัฉราภรณ์ โอบอ้วน อายุ 23 ปี สาวซาเล้งเก็บของเก่าซึ่งพบถุงดังกล่าวเป็นคนแรกให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขี่จักรยานยนต์ซาเล้งออกมาจากบ้านย่านวัดกำแพง มาตามถนนพระราม 2 จากนั้นจึงลัดเลาะมาเข้าในหมู่บ้านดีเคเพื่อเก็บขวดพลาสติกและกระดาษตามถังขยะนำไปขาย ระหว่างที่ถึงหน้าบ้านดังกล่าวพบถุงขยะสีดำทั้ง 2 ใบมัดปากถุงวางอยู่จึงเข้าไปเปิดตรวจสอบ เห็นมีขวดพลาสติกเปล่าและ กระป๋องน้ำอัดลมเปล่าอยู่ที่ด้านบนถุงทั้ง 2 ใบ แต่พอล้วงมือลงไปที่ก้นถุงกลับพบอุปกรณ์ทางการแพทย์เปื้อนเลือด และซากคล้ายศพทารกจำนวนหลายร่าง จึงตกใจทิ้งถุงทั้ง 2 ใบไป เมื่อรวบรวมสติได้ก็รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
ต่อมาแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เดินทางมาถึงจึงทำการชันสูตรเบื้องต้นร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ผลการตรวจสอบพบว่าซากทารกดังกล่าวนั้นเป็นยางเรซินที่ทำการหล่อขึ้นมาให้เสมือนจริงจำนวน 5 ร่าง ส่วนเครื่องในและอวัยวะคล้ายรกเป็นของสัตว์คาดว่าน่าจะเป็นไก่ ถูกทำมาบรรจุไว้ในถุงขยะทั้ง 2 ใบวางเอาไว้คู่กัน จากการสอบถามเจ้าของบ้านไม่ทราบว่าใครนำมาทิ้งเอาไว้ ตำรวจจึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบเป็นหลักฐานท่ามกลางความโล่งอกโล่งใจของกลุ่มไทยมุงที่มารอลุ้นว่าเหตุการณ์ว่าจะซ้ำรอยคดีพบซากทารก 2,002 ศพที่วัดไผ่เงิน ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เมื่อหลายปีก่อนหรือไม่
พ.ต.อ.เชิดชายกล่าวว่า หลังพิสูจน์ว่าซากดังกล่าวไม่ใช่ของมนุษย์ก็มีชาวบ้านที่ไม่ประสงค์ออกนามมาให้ข้อมูลต่อตำรวจว่าเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (2 มี.ค.) มีกลุ่มนักศึกษาไม่ทราบสถาบันเดินทางมาถ่ายภาพยนตร์ส่งงานอาจารย์ในละแวกนี้จึงเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตนถือว่าหากเป็นการนำสิ่งเหล่านี้มาประกอบการถ่ายภาพยนตร์จริงก็ไม่ควรนำมาทิ้งเรี่ยราดให้เกิดความแตกตื่นแบบนี้
เบื้องต้นจึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาตัวกลุ่มนักศึกษาดังกล่าว ก่อนเรียกเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และข้อหาอื่นๆ ตาม พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องเพื่อลงโทษปรับให้เข็ดหลาบเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้ที่คิดจะทำอีกต่อไป
ที่สน.ท่าข้าม น.ส.อัญชิสา แซ่ลอร์ และน.ส.อวยพร ล้อมไธสง 2 นักศึกษา ชั้นปีที่4 มหาวิทยาลัยมหิดล อินเตอร์ สาขาภาพยนตร์ ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.สกนธ์ ศรีวัฒกะพงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ท่าข้ามเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากกรณีมีประชาชนพบชิ้นส่วนคล้ายเด็กทารกถูกทิ้งไว้ในถังขยะจนแตกตื่นกันไปทั่ว
น.ส.อัญชิสา กล่าว่า ตนเรียนสาขาภาพยนตร์จึงต้อง ถ่ายหนังสั้นชื่อเรื่อง "พราก" โดยชิ้นส่วนดังกล่าว เป็นชิ้นส่วนของเจลาตินเลือดเทียม ตุ๊กตา และไส้หมู เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก โดยได้มีการถ่ายทำตั้งแต่เมื่อวาน เป็นงานในลักษณะของการทำแท้ง พวกตนได้ทำอุปกรณ์ต่างๆขึ้นมาเพื่อให้สมจริง หลังจากถ่ายทำเสร็จ ได้เก็บชิ้นส่วนทุกอย่างใส่ถุงดำอย่างดี และนำไปทิ้งในถังขยะตั้งแต่หัวค่ำ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณตี 2 มีผู้แจ้งว่าพวกตนนำซากทารกมาทิ้ง ตนจึงได้เดินทางเข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมกล่าวขอโทษที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ตื่นตระหนก โดยที่พวกตนไม่ได้ตั้งใจ
ด้านพ.ต.ท.สกนธ์ เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากคนเก็บของเก่าไปหาของในถังขยะ และมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่มีการตรวจสอบให้ดี โดยทาง 2 นักศึกษาได้มีการเก็บทิ้งไว้เป็นอย่างดีแล้ว ส่วน นักศึกษาสาววันนี้ได้เดินทางมาให้ข้อมูลทั้งหมดแล้วทั้ง2คนไม่ได้มีการกระทำผิดแต่ทางเจ้าหน้ากล่าวตักเตือนเท่านั้น