รพ.สต.อีเซ แนะใช้ใบตองอ่อนปิดบาดแผล แทนผ้าก๊อซเคลือบวาสลิน ช่วยเนื้อเยื่อสมานกันดี ลดปัญหาเจ็บปวดจากการลอกผ้าก๊อซปิดแผล ใช้ต้นทุนต่ำกว่าเดิม 50% ใช้เวลาในการทำแผลสั้นกว่า ปชช. ปลื้ม ลดกลัวการทำแผลโดยเฉพาะเด็ก
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นางไอยริษา เสาร์ศิริ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) อีเซ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ เสนอผลงาน “การรักษาแผลด้วยใบตองอ่อน” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2557 ว่า ปกติ รพ.สต.อีเซ มีผู้ป่วยมารับบริการทำแผล 12 - 25 ราย โดยเป็นบาดแผลเปิด แผลถลอกร้อยละ 40 แผลถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ร้อยละ 20 แผลเปื่อยติดเชื้อ ร้อยละ 25 แผลที่สร้างความเจ็บปวดให้ผู้ป่วยมากที่สุด คือ บาดแผลถลอก และแผลถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เนื่องจากเมื่อปิดผ้าก๊อซเคลือบวาสลินบนแผลแล้ว แผลจะแห้งและลอกหลุดยาก ต้องใช้น้ำเกลือล้างแผลช่วยละลายสิ่งคัดหลั่งบนแผลให้ชุ่ม จึงจะลอกผ้าก๊อซ ออกได้ ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวด กลัวการทำแผล จึงได้ศึกษาภูมิปัญญาวิถีชาวบ้านด้านการดูแลบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกและแผลถลอก โดยใช้ใบตองกล้วยใบอ่อนที่ยังไม่คลี่ใบ มาใช้ปิดบาดแผลแทนการใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลิน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดูแลให้แผลหายเร็วที่สุด ลดความเจ็บปวดขณะทำแผล
นางไอยริษา กล่าวว่า จากการศึกษาการใช้ใบตองอ่อนปิดแผลให้ผู้ป่วยที่มีบาดแผลถลอก แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก จำนวน 20 ราย พบว่าบาดแผลที่ปิดด้วยใบตอง เนื้อเยื่อมีการสมานกันได้ดี และใบตองอ่อนไม่ติดกับบาดแผล จึงมีผลทำให้แผลหายเร็วกว่าแผลที่ปิดด้วยผ้าก๊อซเคลือบวาสลินประมาณร้อยละ 80 โดยบาดแผลถลอกไม่ลึกที่ใช้ใบตองปิด จะใช้เวลาหายประมาณ 7 วัน หากใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลินปิด จะใช้เวลา 12 - 14 วัน ส่วนบาดแผลถลอก หรือแผลไฟไหม้ที่มีขนาดลึก การปิดแผลด้วยใบตองอ่อน จะหายประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนแผลที่ใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลินปิด จะหายประมาณ 3 - 4 สัปดาห์ สร้างความพึงพอใจผู้ป่วยสูงถึงร้อยละ 98 มีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยขณะทำแผล หากเป็นผู้ป่วยเด็กจะชื่นชอบมาก และไม่กลัวการทำแผลเหมือนที่ผ่านมา
“ด้านต้นทุนพบว่า เกิดการลดต้นทุนต่อครั้งลงประมาณ 50% การทำแผลและปิดแผลด้วยใบตองอ่อน ใช้เงินประมาณ 18 - 20 บาท ขณะที่การใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลินปิดแผลใช้ประมาณ 50 บาท นอกจากนี้ ยังใช้เวลาในการทำแผลเร็วกว่าด้วย โดยใช้เวลาในการตัดใบตองอ่อนไม่ถึง 1 นาที ซึ่งการตัดใบตองจะต้องพอเหมาะกับขนาดแผล จากนั้นคลี่ใบตองออก ตัดส่วนที่สัมผัสอากาศทิ้งไป จากนั้นใช้กรรไกรสะอาด ตัดใบตองขนาดพอดีกับการปิดบาดแผลสนิท และใช้ไม้พันสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่ด้านของใบตองที่มีผิวมันที่จะใช้ปิดแผล การเช็ดต้องเช็ดทางเดียวให้เต็มพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลดีในการฆ่าเชื้อโรคได้ 100% จากนั้นจึงนำมาปิดแผล และใช้ผ้าก๊อซปิดซ้ำข้างบน และติดพลาสเตอร์ยึดไว้ ใบตองที่เหลือสามารถเก็บไว้ใช้ต่อไปได้” นางไอยริษา กล่าว
นางไอยริษา กล่าวว่า การเก็บใบตองไว้ใช้ต่อนั้น จะตัดเป็นท่อนขนาดพอใช้กับแผล ใส่ในถุงพลาสติก สามารถเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ได้นาน 1 เดือน ทั้งนี้ ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับวิธีการทำแผลด้วยใบตองกล้วยอ่อน คาดว่า ในอนาคตควรมีการศึกษากลวิธีการรักษาตามภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอื่นๆ เพื่อนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและสถานบริการ สืบสานภูมิปัญญาให้คงอยู่อย่างรู้ค่าต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นางไอยริษา เสาร์ศิริ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) อีเซ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ เสนอผลงาน “การรักษาแผลด้วยใบตองอ่อน” ในการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2557 ว่า ปกติ รพ.สต.อีเซ มีผู้ป่วยมารับบริการทำแผล 12 - 25 ราย โดยเป็นบาดแผลเปิด แผลถลอกร้อยละ 40 แผลถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ร้อยละ 20 แผลเปื่อยติดเชื้อ ร้อยละ 25 แผลที่สร้างความเจ็บปวดให้ผู้ป่วยมากที่สุด คือ บาดแผลถลอก และแผลถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เนื่องจากเมื่อปิดผ้าก๊อซเคลือบวาสลินบนแผลแล้ว แผลจะแห้งและลอกหลุดยาก ต้องใช้น้ำเกลือล้างแผลช่วยละลายสิ่งคัดหลั่งบนแผลให้ชุ่ม จึงจะลอกผ้าก๊อซ ออกได้ ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวด กลัวการทำแผล จึงได้ศึกษาภูมิปัญญาวิถีชาวบ้านด้านการดูแลบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกและแผลถลอก โดยใช้ใบตองกล้วยใบอ่อนที่ยังไม่คลี่ใบ มาใช้ปิดบาดแผลแทนการใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลิน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดูแลให้แผลหายเร็วที่สุด ลดความเจ็บปวดขณะทำแผล
นางไอยริษา กล่าวว่า จากการศึกษาการใช้ใบตองอ่อนปิดแผลให้ผู้ป่วยที่มีบาดแผลถลอก แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก จำนวน 20 ราย พบว่าบาดแผลที่ปิดด้วยใบตอง เนื้อเยื่อมีการสมานกันได้ดี และใบตองอ่อนไม่ติดกับบาดแผล จึงมีผลทำให้แผลหายเร็วกว่าแผลที่ปิดด้วยผ้าก๊อซเคลือบวาสลินประมาณร้อยละ 80 โดยบาดแผลถลอกไม่ลึกที่ใช้ใบตองปิด จะใช้เวลาหายประมาณ 7 วัน หากใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลินปิด จะใช้เวลา 12 - 14 วัน ส่วนบาดแผลถลอก หรือแผลไฟไหม้ที่มีขนาดลึก การปิดแผลด้วยใบตองอ่อน จะหายประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนแผลที่ใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลินปิด จะหายประมาณ 3 - 4 สัปดาห์ สร้างความพึงพอใจผู้ป่วยสูงถึงร้อยละ 98 มีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยขณะทำแผล หากเป็นผู้ป่วยเด็กจะชื่นชอบมาก และไม่กลัวการทำแผลเหมือนที่ผ่านมา
“ด้านต้นทุนพบว่า เกิดการลดต้นทุนต่อครั้งลงประมาณ 50% การทำแผลและปิดแผลด้วยใบตองอ่อน ใช้เงินประมาณ 18 - 20 บาท ขณะที่การใช้ผ้าก๊อซเคลือบวาสลินปิดแผลใช้ประมาณ 50 บาท นอกจากนี้ ยังใช้เวลาในการทำแผลเร็วกว่าด้วย โดยใช้เวลาในการตัดใบตองอ่อนไม่ถึง 1 นาที ซึ่งการตัดใบตองจะต้องพอเหมาะกับขนาดแผล จากนั้นคลี่ใบตองออก ตัดส่วนที่สัมผัสอากาศทิ้งไป จากนั้นใช้กรรไกรสะอาด ตัดใบตองขนาดพอดีกับการปิดบาดแผลสนิท และใช้ไม้พันสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่ด้านของใบตองที่มีผิวมันที่จะใช้ปิดแผล การเช็ดต้องเช็ดทางเดียวให้เต็มพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลดีในการฆ่าเชื้อโรคได้ 100% จากนั้นจึงนำมาปิดแผล และใช้ผ้าก๊อซปิดซ้ำข้างบน และติดพลาสเตอร์ยึดไว้ ใบตองที่เหลือสามารถเก็บไว้ใช้ต่อไปได้” นางไอยริษา กล่าว
นางไอยริษา กล่าวว่า การเก็บใบตองไว้ใช้ต่อนั้น จะตัดเป็นท่อนขนาดพอใช้กับแผล ใส่ในถุงพลาสติก สามารถเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ได้นาน 1 เดือน ทั้งนี้ ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับวิธีการทำแผลด้วยใบตองกล้วยอ่อน คาดว่า ในอนาคตควรมีการศึกษากลวิธีการรักษาตามภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอื่นๆ เพื่อนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและสถานบริการ สืบสานภูมิปัญญาให้คงอยู่อย่างรู้ค่าต่อไป
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่