ตร.แถลงคืบหน้าคดียักยอกเงิน สจล. เผยรอผลพิสูจน์ลายเซ็นใบเพย์อินผู้บริหารชุดเก่า สัปดาห์นี้เสร็จ

ASTVผู้จัดการ –-“ประวุฒิ” เผยความคืบหน้าคดียักยอกเงิน สจล.พันล้าน ระบุรอผลการตรวจพิสูจน์ลายเซ็นใบเพย์อินของอดีตผู้บริหารมหาวิทยาลัยอย่างละเอียด คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ระบุได้รับความร่วมมืออย่างดีจากธนาคาร

วันนี้ (17 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าในคดียักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ว่า ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้จากกองพิสูจน์หลักฐาน คาดว่าในสัปดาห์นี้จะแล้วเสร็จ

“เรื่องนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ ตรวจดูลายเซ็นในใบเพย์อินเรียบร้อยจะมาพิจารณาจำแนกว่าการลงนามนั้นเกิดขึ้นในเวลาที่มีอำนาจลงนามหรือไม่ หรือมีการเซ็นย้อนหลังหรือไม่ มีข้อมูลอยู่ว่ามีการลงนามย้อนหลัง มีพยานอ้างถึงจึงต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ การลงนามย้อนหลังก็ต้องดูว่าลงนามในอำนาจหรือไม่ ผลตรวจออกมาจะดำเนินการขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องกระทำผิดในคดีนี้ได้เพิ่มเติม” โฆษก ตร.กล่าว และว่าจากที่ดูเบื้องต้นลายเซ็นน่าจะเป็นของจริง แต่ทั้งนี้ต้องตรวจพิสูจน์โดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.) อย่างรอบคอบเสียก่อนจึงสรุปชี้ชัดได้ อย่างไรก็ดี ตอนนี้ตำรวจได้รับความร่วมมืออย่างดีจากธนาคารในการส่งมอบหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเบื้องต้น และสามารถขอเพิ่มเติมได้

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า กลุ่มที่ตรวจสอบลายเซ็นในใบเพย์อินเป็นกลุ่มผู้บริหารชุดเก่าที่มีอำนาจ 3-4 คนแต่มีเพียงคนสองคนที่เซ็นประจำ ลักษณะการเซ็นถอนออกจากบัญชี ถอนมาซื้อแคชเชียร์เช็ค ถอนไปฝาก โดยตรวจสอบย้อนไปตั้งแต่แรกอย่างละเอียด

ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.00 น. ศ.ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. รศ.ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการรองอธิการบดี และนางวรวรรณ สุวรรณกูฎ ผอ.ส่วนนิติการ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีลักเงินคงคลัง สจล.

ศ.ดร.โมไนยกล่าวว่า วันนี้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามในฐานะตัวแทน สจล.ผู้เสียหาย เพื่อลงลายมือชื่อในเอกสารกำกับยืนยันว่านายกิติศักดิ์ มัทธุจัด เป็นผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ

ขณะที่ รศ.ดร.จำรูญกล่าวว่า เดินทางมาในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะในการตรวจสอบบัญชีเงินของ สจล. ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสภามหาวิทยาลัย จากการตรวจสอบมีความคืบหน้าเกือบ 100% โดยเป็นการตรวจสอบเงินในบัญชีตั้งแต่ปี 2558 ย้อนกลับไปถึงปี 2551 คาดจะสามารถตรวจสอบแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเงินในบัญชีหายเพิ่ม โดยจะสรุปเรื่องส่งให้สภามหาวิทยาลัยได้ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ในส่วนของ สจล.จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อตรวจสอบเฉพาะบุคคลภายในสถาบันว่าใครบ้างที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักเงินดังกล่าว โดยจะใช้เวลาในการแต่งตั้งภายใน 45 วัน

ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติม ส่วนบุุคคลที่ถูกเรียกว่า “บอส” ตนไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว ไม่ทราบว่าไปได้ข่าวมาจากไหน วันนี้ได้เราเชิญฝ่ายนิติกรของสถาบันมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อดูว่าจะมีการออกหมายเรียกใครเพิ่มเติมอีก นอกจากนี้เรายังได้ประสานไปยังธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมซึ่งในตอนแรกเราได้มาครบส่วนหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้เราเห็นว่ามีเอกสารที่ต้องขอเพิ่มเติมก็มีการทำเรื่องประสานไปเพื่อนำมาเสริมสำนวนให้ชัดเจนขึ้น

พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวต่อว่า ส่วนผลการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อบุคคลที่มีอำนาจลงนามนั้น ขณะนี้เรากำลังรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานอยู่ เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการยืนยันว่ามีใครร่วมกระทำความผิดอีกบ้าง หากผลตรวจมีการยืนยันถึงตัวบุคคลนั้นก็จะทำการออกหมายจับ เราได้เร่งรัดทาง พฐ.ไปแล้ว เราอยากให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะตอบสังคมให้ได้โดยไว ส่วนสำนวนคดีต่างๆ ตนได้เร่งรัดไปแล้ว ซึ่งแยกออกเป็น 5 คดี คาดว่าคดีที่ 1 จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้