ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งจับสองสามีภรรยา ตั้งบริษัทขายประกันผีหลอกตุ๋นเงินประกันอุบัติเหตุ มีเหยื่อหลงเชื่อ 200 รายมูลค่าสูญหาย 5 ล้าน
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. นายอนันต์ เตชนาสิน กรรมการบริษัท บิ๊ก อินชัวร์แลนด์ โบรกเกอร์ จำกัด น.ส.ศิชา สุขศรีงาม พร้อมกลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สืบตระกูล จันทร์ฤทธิ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายชลธีร์ มนตรีโชค และนางชญานี มนตรีโชค สองสามีภรรยา เจ้าของบริษัท บิ๊กชัวร์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ที่ 310/964 หมู่บ้านปิ่นเจริญ 3 ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง หลังถูกหลอกขายประกันภัยรถยนต์ผ่านคอลเซ็นเตอร์ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท
นายอนันต์กล่าวว่า สำหรับบริษัท บิ๊กชัวร์ กรุ๊ป นั้นจะอ้างตัวเป็นบริษัทโบรกเกอร์ตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ให้กับบริษัท วิริยะประกันภัย โดยบริษัทดังกล่าวจะซื้อหรือหาข้อมูลลูกค้าที่ใกล้จะหมดประกันภัยรถยนต์ จากนั้นจะโทร.หาลูกค้าตามรายชื่อที่ได้มาพร้อมเสนอขายประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 15,000-20,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าบริษัทประกันทั่วไป เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อซื้อประกัน แต่เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันกลับไม่ได้รับการแจ้งว่ามีการต่อประกัน ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก เดิมบริษัทดังกล่าวใช้ชื่อว่า เดอะ คาร์อินชัวร์ ก่อนที่จะปิดบริษัทไป ต่อมาเปิดใหม่ในชื่อ บิ๊ก อินชัวร์ กรุ๊ป โดยจดในนามบุคคล ก่อนที่ภายหลังจะมาจดเป็นนิติบุคคลในชื่อบิ๊กชัวร์กรุ๊ป แต่ไม่มีใบอนุญาตการขายประกันตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยมีผู้หลงเชื่อแล้วกว่า 200 ราย
ขณะที่ น.ส.ศิชากล่าวว่า เมื่อกลางปีที่แล้วมีโทรศัพท์มาบอกว่าอยู่ที่บริษัท บิ๊กชัวร์ กรุ๊ป พร้อมบอกเลขที่ใบอนุญาต รวมทั้งอ้างว่าเป็นตัวแทนประกันของบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด และบอกว่าประกันภัยของตนจะหมดในวันที่ 30 สิงหาคม พร้อมถามว่าต้องการจะต่อประกันหรือไม่ ด้วยความไม่แน่ใจ ตนจึงโทรศัพท์ไปตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาตกับชื่อบุคคลดังกล่าวกับ คปภ.และบริษัท วิริยะประกันภัย พบว่ามีตัวตนอยู่จริง จึงตัดสินใจต่อประกันกับบุคคลดังกล่าว กระทั่งเดือนตุลาคมตนเกิดอุบัติเหตุรถชนต้องนำตัวเองรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ฮอนด้า 70,000 บาท และซ่อมรถคู่กรณีอีกเกือบ 30,000 จากนั้นจึงเรียกบริษัทประกันมา แต่ไม่สามารถเคลมประกันได้เนื่องจากยังไม่ได้ต่อประกัน คปภ.
น.ส.ศิชากล่าวต่อว่า จากนั้นตนจึงเรียกเจ้าหน้าที่บริษัท วิริยะประกันภัย มาสอบถามกลับได้รับคำตอบว่าบุคคลที่โทรศัพท์มาต่อประกันให้ไม่ได้เป็นตัวแทนของวิริยะประกันภัยแล้ว โดยทางบริษัทกำลังจะถอดถอนใบอนุญาต แต่ไม่มีอำนาจ ตนไม่เข้าใจว่าทั้งที่ คปภ.เป็นคนออกใบอนุญาตให้ แต่ทำไมถึงยังไม่ถอนใบอนุญาต และบุคคลดังกล่าวยังคงไปหลอกลวงคนอื่นๆ อีก ทั้งนี้ยอมรับว่าทางบริษัท บิ๊กชัวร์ กรุ๊ปมีการโทรศัพท์มาข่มขู่และพยายามจะให้ไปเจรจากัน แต่เนื่องจากไม่ได้นัดที่สถานีตำรวจ ตนไม่มั่นใจในความปลอดภัยจึงปฏิเสธไป
ด้าน พ.ต.ท.สืบตระกูลกล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งต่อให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ดำเนินการต่อไป