รวบอดีตเซลส์ขายรถใช้รีโมตลักเก๋งลูกค้าเก่า นศ.สาว มน.

พิษณุโลก - ตำรวจเมืองสองแควรวบอดีตเซลส์ขายรถถูกไล่ออกต้องไปขายประกันจนมีปัญหาการเงิน ใช้รีโมตสำรองหลอกเพื่อน ลักเก๋งลูกค้าเก่า นศ.สาว มน.

วันนี้ (29 ม.ค.) พ.ต.ท.นนทกร สีอินทร์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ไชยวิญญ์ อินทรทรัพย์ พ.ต.ท.ปริญญา ทองมา สวป.สภ.เมือง จ.พิษณุโลก ร่วมกันแลงข่าวที่หน้าสถานีย่อยชุมชน มหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ ถึงผลจับกุมนายธนาวัช หรือเอ็ม ขัติยะ อยู่บ้านเลขที่ 192 ม.14 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลางรถยนต์ซูซูกิ สวิฟต์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 1939 พิษณุโลก และรถยนต์โตโยต้า โซลูนา สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วม 81117 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง

โดยการจับกุมมีขึ้นหลัง น.ส.สโรชา ติ๊บถาวร นักศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีคนร้ายเข้าไปลักรถยนต์ซูซูกิป้ายแดง ซึ่งจอดเอาไว้ในหอพักรุ่งไพริน เลขที่ 380 หมู่ 7 ต.ท่าโพธิ์ ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายรูปร่างท้วมเข้าไปขโมยรถยนต์คันดังกล่าวออกไป โดยใช้กุญแจรีโมตเปิดประตูรถยนต์ จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายอาจจะรู้จักกับเจ้าของรถยนต์มาก่อน จึงทำการสอบสวนอย่างละเอียด ต่อมาทราบว่าผู้ที่เข้าไปลักรถยนต์คันดังกล่าวคือ นายสมโภชน์ บุญปั้น อายุ 21 ปี จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

นายสมโภชน์ให้การว่า ไม่ทราบว่าการขับรถคันนี้มาเป็นการขโมยรถ โดยวันเกิดเหตุนายธนาวัชผู้ต้องหาที่รู้จักกันขณะที่ทำงานเก็บเงินกู้เมื่อ 2 ปีก่อน และเคยติดต่อกันไม่กี่ครั้ง ได้ขับรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน วม 81117 กรุงเทพมหานคร มาหาตนที่ปั๊มแก๊ส ขอให้ช่วยไปขับรถยนต์คันดังกล่าว อ้างว่าเป็นรถยนต์ของแฟนที่ยังผ่อนอยู่ แต่ไม่ได้ส่งค่างวด จึงต้องการมาเอารถไปขายต่อ แต่ไม่มีคนขับให้ อีกทั้งไม่อยากไปขับเอง เพราะไม่อยากให้แฟนสาวเห็นหน้า จากนั้นได้พาไปที่หอพักรุ่งไพริน โดยขับวนเข้าไปและชี้บอกรถคันที่จะให้ตนขับ

จากนั้นนายธนาวัชได้มอบกุญแจรีโมตให้ตนเข้าไปเปิดประตูขับรถยนต์เซูซูกิออกมาให้ถึงบริเวณถนนแยกเคียงมอ แล้วนายธนาวัชก็เปลี่ยนไปขับรถยนต์ซูซูกิพาตนไปส่งที่ปั๊มแก๊สทำงานเหมือนเดิม

หลังจากนั้นนายธนาวัชได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เนื่องจากเข้าไปขโมยรถยนต์คันดังกล่าว จึงตกใจมากเพราะไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นการขโมยรถ จึงปรึกษาญาติก่อนจะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในวันเดียวกัน เวลา 23.00 น. เนื่องจากไม่ได้รู้เห็นกับการกระทำของนายธนาวัช แต่ถูกหลอกให้ไปขับรถออกมาเท่านั้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธนาวัชมาทำการสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธ แต่จำนนต่อพยานหลักฐาน จึงยอมเอ่ยปากรับสารภาพว่าได้นำรถไปซ่อนไว้ที่บ้านเพื่อนใน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปนำรถของกลางกลับคืนมา

นายธนาวัชให้การว่า เคยเป็นพนักงานขายอยู่ที่โชว์รูมซูซูกิ และเป็นคนขายรถคันนี้ให้แก่ผู้เสียหายเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา จากนั้นตนได้รับรถยนต์ของผู้เสียหายไปทำการตกแต่งที่ร้านข้างนอกโดยไม่ผ่านตัวแทนของบริษัท โดยผู้เสียหายได้มอบกุญแจรถยนต์ให้แก่ตนทั้งหมด

หลังจากตกแต่งรถยนต์เสร็จจึงได้นำมาคืน พร้อมกุญแจหลักดอกเดียว ส่วนกุญแจสำรองติดอยู่ในกระเป๋าตนเองไม่ได้คืนให้ไป ตั้งใจว่าจะคืนให้ตอนได้ป้ายทะเบียน

ต่อมาผู้เสียหายได้นำรถยนต์ไปเคลมกับบริษัท เพราะชุดแต่งที่ทำมาเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย ทางบริษัทได้ปฏิเสธเพราะไม่ได้ติดตั้งในนามของซูซูกิโดยตรง จึงทำให้ตนถูกไล่ออกจากงานเพราะทำผิดนโยบายที่ไปรับงานนอก ต้องออกมาขายประกันชีวิต ซึ่งจะได้แต่ค่านายหน้า ทำให้มีปัญหาเรื่องเงิน จึงตัดสินใจใช้กุญแจสำรองที่ยังไม่คืนไปก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้วางแผนอะไร และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก