“แม่น้องต๊อก” วัย 13 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตปริศนา จ.พิษณุโลก ยื่นหนังสือขอให้อัยการสอบสวนสำนวนก่อนสั่งคดี เชื่อลูกชายถูกฆาตกรรม
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารเอ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (20 ต.ค.) นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ และประธานต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยนางกัลยา เกตุนาวา อายุ 32 ปี มารดาของ ด.ช.ศุภชัย ธรรมานุพัฒน์ หรือ น้องต๊อก อายุ 13 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตปริศนา ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ตั้งคณะอัยการเข้าตรวจสำนวนคดีก่อนมีคำสั่ง โดยมี นายโกศลวัฒน์ อินทุจรรยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือ
หนังสือคำร้องสรุปว่า ด.ช.ศุภชัย ถึงแก่ความตายโดยผิดธรรมชาติ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งนางกัลยาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ด.ช.ศุภชัย จมน้ำเสียชีวิต โดยมีสภาพศพสวมกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมเสื้อถือว่าผิดธรรมชาติ โดยการสอบพยานปากต่างๆ อ้างว่า ด.ช.ศุภชัย จมน้ำถึงแก่ความตาย และทาง รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ออกหนังสือรับรองการตายว่าจมน้ำเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ต่อมานางกัลยาได้รับรายงานการชันสูตรดังกล่าวพบว่าบันทึกใบชันสูตรยังไม่ทราบสาเหตุ จึงได้ส่งศพ ด.ช.ศุภชัย มาชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และแพทย์ระบุว่า ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ร่วมกับถูกของแข็งเป็นสาเหตุแก่ความตาย ทำให้คดีมีข้อพิรุธเคลือบแคลงสงสัยในผลการสอบสวนและผลการชันสูตรพลิกศพที่ขัดกับคำให้การของพยาน เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงร้องขอให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งคณะทำงานอัยการผู้เชี่ยวชาญ หรือชำนาญการฝ่ายอาญาและเยาวชนเข้าร่วมพิจารณาตรวจสอบสำนวนคดีของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ในระหว่างการสอบพยานเด็กและระหว่างมีความเห็นสั่งคดี โดยขอให้มีคำสั่งเป็นกรณีเร่งด่วน
นายสงกานต์ กล่าวว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานจากเอสเอ็มเอสและข้อความที่พูดคุยผ่านทางเฟสบุ๊คของกลุ่มคู่กรณีและด.ช.ศุภชัย ซึ่งอาจเป็นมูลเหตุบ่งชี้ว่าการตายของ ด.ช.ศุภชัย เป็นการถูกลวงไปฆ่า นอกจากนี้ มีประจักษ์พยานสำคัญซึ่งเป็นเยาวชนที่รู้เห็นเหตุการณ์และร่วมมือด้วย แต่ได้กลับใจพร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ทำร้าย ด.ช.ศุภชัย อย่างเป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งจะร้องขอให้เจ้าหน้าที่กันเยาวชนรายนี้เป็นพยาน ส่วนผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นขณะนี้ยังไม่มีการเรียกมาสอบสวน อีกทั้งบางคนมีญาติเป็นนายตำรวจในพื้นที่ ทั้งนี้ ตนได้นำภาพข้อความที่พูดคุยกันระหว่างด.ช.ศุภชัย และคู่กรณีช่วงก่อนเกิดเหตุและวันเกิดเหตุให้พนักงานอัยการไว้เพื่อประกอบเป็นแนวทางพิจารณาสั่งคดีหากพนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาถึงอัยการ ตนเห็นว่าควรรายงานและร้องขอให้กับทางอัยการทราบก่อน และจะยื่นคำกล่าวโทษถึง ผบ.ตร. อีกทางหนึ่ง
นางกัลยา เปิดเผยว่า หลังจากมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ทำให้รู้สึกมั่นใจในการต่อสู้คดีมากขึ้นว่าสุดท้ายคดีของลูกชายจะคลี่คลายได้ ก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกชายไปพัวพันกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด มาทราบภายหลังจากที่ลูกชายเสียชีวิตไปแล้วว่าสาเหตุการตายมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายา
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า สำนวนการสอบสวนคดีนี้ยังอยู่ในชั้นสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังไม่ทราบว่ามีการตั้งเรื่องอย่างไร แต่ทางสำนักงานจะเสนอเรื่องให้ทางอัยการสูงสุดทราบ เพื่อมอบหมายให้พนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณา คงต้องรอผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
