xs
xsm
sm
md
lg

ใครใคร่ค้า ค้า ขายบริการ ค้ายานรก เปิดโชว์ลามก ตรงมาที่นี่เฟซบุ๊ก ช่องโหว่กฎหมายจับไม่ได้ไล่ตามไม่ทัน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTVผู้จัดการออนไลน์-ใครใคร่ค้า ค้า ขายบริการทางเพศ เปิดร้านอาหารโชว์ลามก ค้ายา ค้าอาวุธ เมืองไทยนี้ดีมีอิสระทุกอย่าง เพียงรู้จักใช้โซเชียลฯ ง่ายๆเปิดบัญชีเฟซบุ๊กแล้วซื้อไลค์แพร่กระจายออกไป คนดูแลกฎหมายเฉื่อย จับไม่ได้ไล่ตามไม่ทัน

ยุคปัจจุบัน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีจำนวนมากขึ้น ด้วยความสะดวกของเครื่องมือ และ เครือข่ายความเร็วสูง โดยเฉพาะ โซเซียลเน็ทเวริ์คอย่างเฟซบุ๊คที่ได้ใช้กันแพร่หลาย แน่นอนว่า เพซบุ๊คมีด้านดี แต่ก็มีด้านลบ เพราะ มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ได้ใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่เรื่องผิดกฎหมาย ขัดต่อศีลธรรมอันดีของสังคมไทยอย่างโจ่งครึ่ม

ล่าสุด ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ลงทุนจ่ายเงินสนับสนุนเพซบุ๊กแลกกับการโปรโมทเมนูพิสดาร “ซูชิเปลือย” โดยให้หญิงสาวเปลือยกายนอนบนโต๊ะอาหาร ก่อนนำซูชิ วางบนร่างเปลือยเปล่าเสิร์ฟให้ลูกค้า

ภาพและข้อความที่ปรากฎต่อสาธารณะแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งว่า ต้องการเชิญชวนผู้คนที่เห็นสิ่งนี้ได้ไปลิ้มลองซูซิที่รสชาติอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ความเร้าใจของผู้หญิงเปลือย ไม่อาจทำให้ผู้ชายทั้งหลายยับยั้งชั่งใจได้

น่าแปลกใจที่กรณีนี้ เฟซบุ๊คไม่มีการกลั่นกรองเรื่องทำนองนี้ ร้านอาหารดังกล่าวสามารถหาใครสักคนที่รู้เรื่องการใช้งานโซเชียลฯชื่อดังเข้ามาสมัครเปิดบัญชีแล้วเข้าไปเลือกกรอกข้อมูล “โปรโมทเพจ” หรือ “โปรโมทโพสต์” ได้ตามสะดวก

จากนั้น จ่ายเงินตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่นต่อวัน เพื่อ “รับจำนวนถูกใจเพจเพิ่มขึ้น” หมายถึง ใครมีเงินจ่ายให้เฟซบุ๊กมาก เพซบุ๊กก็จะโปรโมทเลือกกลุ่มเป่าหมายให้มากเท่านั้น

ง่ายๆเพียงเท่านี้ ธุรกิจขายเนื้อหนังมังสาก็สามารถโฆษณาให้สังคมก้มหน้าหาช่องโกยเงินเข้ากระเป๋าได้ แต่ ร้อยถี่มีห่าง ในจำนวนผู้คนมหาศาลที่เพ่งมองเฟซบุ๊ก เพจดังกล่าวก็เข้าตานักข่าวกลายเป็นประเด็นกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นและแจ้งข้อกล่าวหาต่อคนที่รับเป็นเจ้าของร้านในเวลาต่อมา

เราต่างทราบดี เพจในลักษณะนี้มีจำนวนมากมายมหาศาล จะด้วยเหตุผลทางธุรกิจที่คิดแต่รายได้ของเฟซบุ๊ ก คนใช้ที่สบช่อง หรือ จะเป็นคนดูแลกฎหมายเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จะมีสักกี่เพจที่จะเจอแจ็กพ็อตเหมือนเจ้านี้?

กรณีของ “เบ๊นซ์ ท่าทราย” หนุ่มวัยคะนองที่หนีข้อหาค้ายาเสพติด ได้โพสต์ข้อความขู่ฆ่าอาฆาตตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พร้อมครอบครัวทั้งโรงพัก ถูกนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า นายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด หรือ "เบนซ์ ท่าทราย"

ไม่เพียงเท่านั้น เขาผู้นี้ที่รู้จักกันในวงกว้างในเวลาต่อมาว่า "เบนซ์ ท่าทราย" ยังลงภาพถ่ายของตัวเองขณะถืออาวุธสงคราม ยาบ้า และเงินสดจำนวนมาก เพื่อเพิ่มน้ำหนักของคำขู่ดังกล่าวการกระทำดังกล่าวส่งผลทันควัน และอาจจะเกินความคาดหมาย เพราะเมื่อข้อความข่มขู่เผยแพร่ออกไปไม่นาน "เบนซ์ ท่าทราย" กลายเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจไปในทันที

ไม่เว้นแต่การค้าประเวณี ล่าสุดพบข่าวตำรวจอุดรธานีรวบ 2 สาว ประกาศขายตัวทางเฟซบุ๊กแบบสวิงกิ้ง สารภาพเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิง แต่ปิดกิจการเลยตกงานไม่มีเงินใช้ และต้องการหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยต้อกระจก

หรือจะเห็นเกลื่อนกราดที่วัยรุ่นวัยคะนองทั่วไปโพสต์ภาพ ปืน มีด ระเบิด ปืนสั้น ปืนยาว สนับมือ รวมไปถึงสิ่งเสพติดดังจะเห็นได้จากการโพสต์ของวัยรุ่นมีการโพสต์มาอวดอาวุธกันอย่างโจ๋งครึ้ม ซึ่งการแสดงอาวุธต่างๆ เหล่านี้ย่อมแสดงว่าพวกเขาคงมีใจฝักใฝ่ในสิ่งผิดกฎหมายอย่างแน่นอน

คำถามสำคัญก็คือ สิ่งเหล่านี้มีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไร

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ อดีตผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ ปอท. เปิดเผยว่า การเอาผิดผู้กระทำผิดทางเฟสบุ๊ค หน่วยงานที่ดูแลก็คือ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ ปอท. ซึ่งดูแลในเรื่องฐานความผิด พ.ร.บ คอมพิวเตอร์

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าต่อว่า การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องราวบนโลกออนไลน์นั้น มีผู้รับผิดชอบดูแลอยู่ 2 ส่วน คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะเป็นผู้สืบสวน สอบสวน และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่จะเป็นผู้ปิดกั้นการแพร่หลายของเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งอยากขอร้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่าให้เลิกรอคอยเจ้าทุกข์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกของอินเทอร์เน็ตนั้นเกิดและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงไม่ควรรอให้มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความหรือรอให้มีผู้ร้องเรียน เจ้าหน้าที่จึงจะสามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ ก็อยากให้มีการเติมเต็มเรื่องความมั่นคงให้กับเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญวิชาการ และเติมเนื้อหาเทคโนโลยีให้กับตำรวจซึ่งมีความถนัดในการสืบสวนสอบสวน เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

"กรณีเฟซบุ๊กในประเทศไทย ต้องยอมรับว่า เป็นเพราะไม่มีผู้ดูแลระบบในประเทศไทย ทำให้ยากต่อการควบคุม เนื่องจากใครจะสร้างเฟสบุ๊กใหม่ๆ ก็ย่อมได้ นอกจากนั้น การเอาผิดทางกฎหมายจึงต้องดูเป็นกรณีไป อาทิ ผู้กระทำผิดโพสต์เกี่ยวกับการค้าประเวณี ก็จะผิดทั้งกฎหมายค้าประเวณีและผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฐานความผิดคือกระจายข้อมูลข่าวสารออกไป จึงถือว่ามีความผิดควบคู่กันไปด้วย รวมไปถึงการโพสต์ภาพการครอบครองอาวุธหรือยาเสพติดด้วย"

ขณะที่ แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที เปิดเผยว่า กรณีหากประชาชนทั่วไปจะแจ้งเอาเรื่องต้องไปแจ้งความกับตำรวจก่อนแล้วเอาสำนวนกับตำรวจไปยื่นให้กระทรวจเทคโนโลยีและสารสนเทศฯ จากนั้นก็จะทำการเช๊คพวก IP address ได้แล้วถึงจะเข้าไปจัดการอะไรต่อได้ซึ่งทางไอซีที เองจะไปแจ้งทางเฟสบุ๊คไม่ได้โดยตรง เนื่องจากเฟสบุ๊ก ไม่ได้มีสำนักงานในประเทศไทย แต่ไอซีทีจะสามารถหาที่อยู่สถานที่คนทำผิดได้แล้วจัดการกับผู้กระทำผิด

นอกจากนั้น ปัจจุบันคนทำธุรกิจส่วนตัว, ค้าขายไม่ว่าธุรกิจจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่มักจะใช้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ในการหาลูกค้าใหม่ๆ หรือว่าติดต่อกับลูกค้ารายเดิม ซึ่งยิ่ง แฟนเพจ ของคุณมียอดไลท์ และยอด Talking About this (จำนวนคนที่กด Like , Share , Comment , Tag ใน Fanpage ของเรา) มียอดมากเท่าไหร่ ก็หมายความการโพสแต่ละครั้งของคุณก็จะมีสื่อไปถึงกลุ่มคนได้มากขึ้นเท่านั้น

วิธีนี้เรียกว่าการลงโฆษณากับ Facebook Ad วิธีนี้ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ข้อดีก็คือเราสามารถกำหนดได้เลยว่าอยากจะให้โฆษณาของเราไปปรากฏกับใครบ้าง เช่น ต้องการให้โฆษณาเฉพาะผู้ชาย อายุประมาณวัยทำงานเท่านั้น โดยการทำวิธีนี้จะมีกลุ่มคนทำการโปรโมตเพจในเฟซบุ๊กอยู่ ซึ่งอาจจะแฝงด้วยกลุ่มมิจฉาชีพด้วยก็ได้ เนื่องจากการสร้างเพจโปรโมตเพจเพียงแค่เปิดเข้าไปในกูเกิ้ลก็จะมีการบอกวิธีและบริการรับลงโฆษณาอยู่ตลอด นี่ก็เป็นอีกช่องโหว่ของเฟสบุ๊คที่กลุ่มมิจฉาชีพอาจเข้ามาสร้างปัญหาทางอาชญากรรมทางใดทางหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถสกัดกั้นได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากหากใครรู้วิธีก็สามารถสร้างแฟนเพจของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ใด

อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีอย่าโพสต์ข้อความหรือรูปภาพบอกใครให้รู้ว่าคุณทำเรื่องผิดกฏหมายจริงๆ ข้อนี้ควรจะเริ่มต้นว่าอย่าทำผิดกฏหมายมากกว่า แต่ถ้าคุณทำผิดไปแล้ว อย่านึกว่าเฟซบุ๊กจะเป็นหลักฐานไม่ได้ เพราะนอกข้อความในเฟซบุ๊กจะไม่ใช่เพียงหลักฐานธรรมดาเท่านั้น มันยังเป็นหลักฐานชั้นดีอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็น ภาพเด็กอายุต่ำกว่ากำหนดดื่มแอลกอฮอลล์ ภาพเปลือยของแฟนหรือแฟนเก่า หรือภาพที่คุณเมาขณะขับรถตำรวจสามารถจับคุณได้ โดยใช้หลักฐานจากเฟสบุ๊ค

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตต้องรู้ และปฏิบัติให้อยู่ในกฎหมายด้วย หากกระทำผิด พ.ร.บ. คุณก็จะถูกดำเนินคดี จำคุก และปรับได้ ซึ่งคุณอ้างไม่ได้ว่าคุณไม่รู้คงไม่ได้ เพราะคุณคือผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ทุกคน




กำลังโหลดความคิดเห็น