ดีเอสไอสนธิกำลัง 6 หน่วยงานจับขบวนการค้ามนุษย์ลวงเหยื่อค้าแรงงานบนเรือประมงในน่านน้ำอินโดนีเซีย เผยพฤติกรรมของแก๊งจะตระเวนตามสถานีขนส่งสาธารณะเพื่อลวงเหยื่อที่กำลังหางานทำ ก่อนออกอุบายทำงานในเรือระยะสั้นรายได้ดี จนท.พบเหยื่อถูกหลอกอายุต่ำสุด 13 ปี
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.ไพศิษฏ์ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 ปคม. และน.ส.พัชรี แนวพานิช ผู้อำนวยการส่วนช่วยเหลือผู้เสียหาย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหากระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยมีพฤติการณ์หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญคนไทยไปทำงานในเรือประมงในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย
นางสุวณากล่าวว่า ดีเอสไอร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.)กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงการต่างประเทศ อัยการสูงสุด เพื่อแก้ปัญหาการปราบปรามค้ามนุษย์ จนได้รับข้อมูลเรื่องการหลอกลวงประชาชนไปทำงานบนเรือประมงในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย โดยมีการยึดเอกสารหรือหนังสือเดินทางของผู้เสียหาย จากนั้นมีการทำร้ายร่างกาย บังคับขู่เข็ญให้ทำงานบนเรือประมง และไม่จ่ายค่าแรงตามที่ตกลงไว้ จนลูกเรือไทยบางส่วนที่ทนไม่ไหวหนีลงเรือว่ายน้ำไปหลบซ่อนที่เกาะอำบน ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าทำเป็นขบวนการ โดยจะมีนายหน้าหลอกคนต่างจังหวัดที่เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อหางานตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ก่อนหลอกพาไปขึ้นเรือประมง บางรายไปหลอกลวงผู้เสียหายตามหมู่บ้านในต่างจังหวัดทางภาคอีสาน
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญา 2 คน ได้ที่จังหวัดสมุทรสงคราม ประกอบด้วย 1. นายมนตรี หรือตึ๋ง มัคผล อายุ 53 ปี เป็นนายหน้าจัดหาคนไปทำงานในเรือประมง 2. นายภมร หรือหนู จันทร์โต อายุ 52 ปี ไต้ก๋ง หรือกัปตันเรือประมง ที่บังคับให้ทำงานบนเรือ ส่วนผู้ต้องหารายที่ 3 เป็นช่างเครื่องเรือประมงดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวอยู่ คาดว่าหลบหนีอยู่ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ดีเอสไอจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทลายขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงประชาชนไปทำงานบนเรือที่อินโดให้ได้ทั้งขบวนการ
ด้าน น.ส.พัชรีเปิดเผยว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว รมว.พม.ได้สั่งการให้ตรวจสอบ จนส่งทีมงานลงไปดูที่เกาะอำบน ในรอบแรกพบคนไทยที่หลบซ่อนที่เกาะดังกล่าว 8 คน และยังอยู่ระหว่างการช่วยเหลืออีกประมาณ 100 คน ทั้งนี้ ประเทศอินโดนีเซียมีภูมิประเทศเป็นเกาะเล็กย่อยหลายเกาะทำให้ยากแก่การค้นหา นอกจากนี้ ภายหลังให้การช่วยเหลือผู้เสียหายต้องนำมาบำบัดฟื้นฟูและเยี่ยวยาจิตใจ พร้อมประสานหน่วยงานให้หางานและอาชีพให้
พ.ต.ท.ชูศักดิ์กล่าวว่า ปคม.ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเก็บข้อมูลลักษณะภูมิประเทศ พร้อมกับให้ข้อมูลกับทางการประเทศอินโดนีเซีย เพื่อร่วมกันตรวจสอบ และค้นหาลูกเรือไทยภายในเกาะอำบน และเกาะอื่นๆ ส่วนบทลงโทษผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์นั้นมีโทษสูงสุดจำคุก 20 ปี และยึดทรัพย์ตามกฏหมายฟอกเงิน แต่หากเป็นการค้ามนุษย์ในลักษณะการค้ามนุษย์ข้ามชาติ โทษหนักกว่าเดิม 2.5 เท่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปใช้แรงงานบนเรือดังกล่าวนั้นมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อายุต่ำสุดระหว่าง 13-15 ปี โดยบางรายได้รับค่าตอบแทนจากการถูกบังคับใช้แรงงานบนเรือ 10,000 ต่อปี เฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท สำหรับนายหน้าที่ตระเวนหลอกลวงเหยื่อเพื่อไปค้าแรงงานบนเรือจะได้รับค่าจ้างหลักหมื่นต่อราย ในส่วนของผู้ต้องหาที่จับกุมได้นี้ทำมาแล้วหลายปี ก่อนถูกออกหมายจับดังกล่าวก็มีคดีติดตัวอีกด้วย
