นครศรีธรรมราช - ขบวนการค้ามนุษย์เปลี่ยนเส้นทางขนย้ายชาวโรฮิงญาผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราช เลี่ยงการจับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่สกัดจับกุมขบวนขนย้ายในรถยนต์ 5 คัน รวม 98 ราย เสียชีวิต 1 ราย และหลบหนีไปได้อีกหลายคัน
วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้ควบคุมตัวชาวโรฮิงญา รวม 98 ราย ในสภาพอิดโรยอย่างหนัก หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดจับกุมขบวนการขนย้ายไว้ได้ โดยชาวโรฮิงญาจำนวนนี้ถูกอัดแน่นอยู่ในรถยนต์ 5 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ 4 ประตู 3 คัน และรถยนต์กระบะดัดแปลงเป็นตู้ 1 คัน รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน โดยมีชาวโรฮิงญาถูกอัดแน่นอยู่ในรถยนต์ทั้ง 5 คันนี้ รวม 98 คน ขณะที่กำลังใช้เส้นทางสายนครศรีธรรมราช-สงขลา ช่วงหมู่ที่ 2 ตำบลทรายขาว อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้ 2 คัน คือ นายสวัสดิ์ ผดุงชาติ อายุ 29 ปี อยู่ 19/4 หมู่ 1 ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง และนายสุทธิพงศ์ ช่วยพัฒน์ อายุ 49 ปี อยู่ 109 หมู่ 2 ตำบลปากหมาก อำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 3 คน ที่เป็นผู้ขับขี่นั้นได้ทิ้งชาวโรฮิงญาไว้ในรถก่อนหลบหนีไปได้
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่นำตัวมายัง สภ.หัวไทร และลงจากรถพบว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย และอีกหลายรายอยู่ในสภาพอ่อนเพลียอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวทยอยส่งโรงพยาบาลหัวไทรอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นนั้นพบว่า แต่ละรายนั้นอยู่ในสภาพอดอาหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วัน โดยทุกคนถูกอัดแน่นอยู่ในรถยนต์กระบะ 4 ประตูนั้น อัดชาวโรฮิงญาไว้ถึงคันละเกือบ 20 คน เจ้าหน้าที่ระบุว่าเบื้องต้นนั้น ขบวนการค้ามนุษย์ได้เปลี่ยนเส้นทางจากฝั่งตะวันตกของภาคใต้ อ้อมมายังฝั่งอ่าวไทยเพื่อหลีกเลี่ยงการจับตามองของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ถูกจับกุมได้นั้นระบุว่า ได้รับชาวโรฮิงญามาจากปากน้ำ จังหวัดพังงา เพื่อไปส่งยังจังหวัดสงขลา
ร.ต.อ.สมพร ทองจีน รอง สวป.สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่า มีขบวนการขนย้ายชาวต่างด้าวผ่านมาในเส้นทางของอำเภอหัวไทร มุ่งหน้าไปสงขลา จึงตั้งด่านบริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลทรายขาว อำเภอหัวไทร ช่วงเวลาประมาณ 4 นาฬิกา จนพบว่ามีขบวนรถมากกว่า 5 คัน แล่นติดตามกันมาไม่ห่างจึงสกัดไว้ได้ 2 คน ส่วนที่เหลือแหกด่านหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่สกัดจับกุมปรากฏว่า คนขับขี่ได้ทิ้งรถพร้อมชาวต่างด้าวเหล่านี้ไว้จึงทำการคุมตัวมายังสถานี
ขณะที่ นายชูรินทร์ ขวัญทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ และระบุว่า จะทำการสัมภาษณ์คัดแยกผ่านล่าม โดยหากพบว่าบุคคลเหล่านี้เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์จะดำเนินการรับไว้ในกระบวนการดูแลของพัฒนาสังคม และหากพบว่า ไม่ได้เป็นการค้ามนุษย์จะส่งต่อไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามกระบวนการ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ได้มีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จำนวนมากช่วยกันนำอาหาร เสื้อผ้า มามอบให้แก่ชาวโรฮิงญาเหล่านี้เพื่อบรรเทาสถานการณ์ และความอดอยากในเบื้องต้น โดยพบว่า ด้วยความหิวทำให้กลุ่มชาวโรฮิงญาต้องแย่งกันรับประทานเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาจัดระเบียบการรับอาหาร ส่วนเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ ได้รับศพไปประสานกับสุสานมุสลิมในพื้นที่ พร้อมทั้งผู้นำทางศาสนาช่วยดำเนินการฝังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว