สุราษฎร์ธานี - สถานการณ์น้ำในสุราษฎร์ธานี น้ำป่ายังไหลหลากขยายวงกว้าง ล่าสุด มวลน้ำจำนวนมากจากคลองปากหมาก ไหลเข้าท่วมในตัวตลาดไชยา ชาวบ้านต้องเร่งขนของหนี ในขณะที่ถนนทางเข้าตัวอำเภอไชยาถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 เซนติเมตร ส่วน อบต.ปากหมาก เร่งสำรวจความเสียหาย
จากกรณีน้ำป่าจากเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง จ.สุราษฎร์ธานี ได้ไหลหลากลงคลองปากหมาก และความแรงของกระแสน้ำได้พัดคอสะพานขาด จำนวน 3 จุด เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มลง จำนวน 2 ต้น ในพื้นที่ หมู่ที่ 4, 7 ตำบลปากหมาก อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 2,000 ครัวเรือน ล่าสุด เช้าวันนี้ (15 ธ.ค.) มวลน้ำทั้งหมดได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในตัวอำเภอไชยาแล้ว โดยน้ำท่วมถนนสายเอเชีย 41 ขาขึ้น กทม.บริเวณใกล้สี่แยกไชยา ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้เข้ามาดูแลความปลอดด้านการจราจร
นอกจากนั้น ปริมาณน้ำยังได้ไหลเข้าตัวอำเภอไชยา ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้บนที่สูง ระดับน้ำสูงกว่า 50-70 เซนติเมตร ซึ่งนอกจากน้ำจะไหลเข้าท่วมตัวเมืองแล้ว ในส่วนของตัวอำเภอไชยา ขณะมี่มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมแล้วเช่นกัน โดยปริมาณน้ำสูงประมาณ 40 ซม. โดยรถทุกชนิดยังสามารถผ่านสัญจรไปมาได้ ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่ได้ประกาศปิดการเรียนการสอน จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย ร.ร.ไชยาวิทยา ร.ร.รัตนนาราม ร.ร.ประถมพุทธนิคม และวิทยาลัยการอาชีพไชยา
ด้าน นายปรีชา สุขมี รองนายก อบต.ปากหมาก พร้อมด้วย นายวิรัช นิลทจันทร์ อบต.หมู่ 4 นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เสียหายจากเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ พบคอสะพานบ้านสวนป่าไชยา คอสะพานห้วยทรายขาว คอสะพานหน้าสำนักสงฆ์ คอสะพานบ้านลุ่ม คอสะพานบ้านฝ่ายท่า ถูกน้ำกัดเซาะเสียหายใช้การไม่ได้ ถนนเชื่อมในหมู่บ้านพื้นที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ขาด 2 แห่ง
ดินสไลด์ทับบ้านเรือนประชาชนเสียหายบางส่วน 1 หลัง ประชาชนเดือดร้อนกว่า 500 ครัวเรือน ส่วนเสาไฟฟ้าแรงสูงเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอำเภอไชยา ได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขสามารถจ่ายไฟได้ตามปกติแล้ว