ที่ปรึกษา สบ10 ปัดข่าวหักหลัง พงส.ใต้ ระบุทุกนายกลับต้นสังกัดหลังครบระยะเวลา 2 ปี เร่งคัดเลือกล็อตใหม่ ระบุหมดวาระลงแล้วตั้งแต่ในที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยในปีนี้ ศชต. ต้องการพนักงานสอบสวนจำนวน 138 นายลงพื้นที่
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นประธานการประชุมพิจารณาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมี พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการกำลังพล (ผบช.สกพ.) ตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 - 9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ในการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีตัวแทนจากทุก บช. เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีการหมดวาระในการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนจากส่วนกลางที่ส่งลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนเมื่อปี 2555 โดยได้มีการคัดเลือกพนักงานสอบสวนจาก บช.ต่างๆ ลงไปในพื้นที่มีกำหนดระยะเวลา 2 ปี และได้หมดวาระลงในวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตนได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการเกตุ ผบช.ศชต. ว่า พนักงานสอบสวนชุดดังกล่าวได้เดินทางกลับไปปฏิบัติงานที่กองบัญชาการต้นสังกัดเดิมทั้งหมดแล้ว เหลือที่สมัครใจปฏิบัติหน้าที่ต่อ 18 นาย เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้กับพนักงานสอบสวน (สบ1) จึงอยากชี้แจงให้สังคมเข้าใจตรงกัน นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตรวจสอบเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนชุดเดิมสมควรจะได้รับว่ามีอะไรตกหล่นหรือไม่ เพราะคนเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้เสียสละ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงต้องดูแลอย่างเต็มที่
“พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เดิมทีก็มีพนักงานสอบสวนมากอยู่แล้ว แต่ร้อยละ 90 เป็นพนักงานสอบสวน (สบ1) ซึ่งยังขาดทักษะและประสบการณ์ ในขณะคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง มีความละเอียดอ่อน จึงต้องใช้พนักงานสอบสวนที่มีประสบการณ์ จึงต้องมีการคัดเลือกพนักงานสอบสวน ระดับชำนาญการ (สบ2) ระดับชำนาญการพิเศษ หรือระดับผู้ทรงคุณวุฒิลงไปทำหน้าที่ตรงนี้” ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวและว่า สำหรับปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนในพื้นที่ดังกล่าว ทางผู้บังคับบัญชาพยายามหาทางแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ศึกษารูปแบบการคัดเลือกบุคคลขององค์กรศาลและอัยการเพื่อนำมาปรับใช้ในอนาคต นอกจากนี้ ได้เร่งพิจารณาเรื่องผลตอบแทนรวมทั้งสวัสดิการต่างๆ ที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่สมควรได้รับให้ครบถ้วน เนื่องจากคนกลุ่มนี้ถือเป็นผู้เสียสละ
พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการคัดเลือกพนักงานสอบสวนรุ่นที่ 2 ที่จะลงปฏิบัติงานในพื้นที่ ตนได้สั่งการในที่ประชุมให้แต่ละกองบัญชาการทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) รวมถึงตำรวจภูธรภาค 1 - 9 ไปดำเนินการคัดเลือกพนักงานสอบสวนในสังกัด เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยในปีนี้ ศชต. ต้องการพนักงานสอบสวนจำนวน 138 นาย จึงให้แต่ละกองบัญชาการส่งรายชื่อภายหลังจากที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการคัดสรรบุคคลเป็นตัวแทนของหน่วยงานลงปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มายังสำนักงานกำลังพล ภายในวันที่ 7 ก.พ. และจะมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 15 ก.พ. ต่อไป ทั้งนี้ จะได้ไม่ให้เกิดช่องว่างระหว่างการสับเปลี่ยนกำลังพลเพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในพื้นที่