จันทบุรี – แผนผลักดันขับไล่โขลงช้างป่ากว่า 70 ตัวให้กลับขึ้นเขากล้วย ยังไม่เป็นประสบผล เหตุกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อย ส่วนชาวบ้านยังหวาดผวาไม่กล้าออกจากบ้าน อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานอย่างหนัก หวังให้ช้างกลับขึ้นเขาก่อนนักเรียนเปิดเรียนในวันที่ 5 ม.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีโขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ซึ่งข้ามเขาอ่างฤาไนเข้ามาอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 9 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรีนานกว่า 1 สัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และหน่วยงานในพื้นที่ยังคงใช้ความพยายามในการผลักดันให้กลับขึ้นเขากล้วย หรือกลับเข้าป่าอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุดในวันนี้ ( 3 มกราคม) การผลักดันขับไล่ตลอดกว่า 1 สัปดาห์ก็ยังไม่บังเกิดผล เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อย ทำให้การผลักดันและขับไล่ทำได้ยาก
ที่สำคัญช้างโขลงนี้ยังมีจ่าโขลง อย่างเจ้าช้างงาบิดคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และหวงโขลง เนื่องจากช้างโขลงนี้มีตัวเมียเป็นจำนวนมากซึ่งหากเจ้าหน้าที่เข้าใกล้ หรือประชิดโขลงมากเกินไป เจ้างาบิดก็จะวิ่งไล่ และเข้าชาร์ทในทันที จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเสี่ยงที่จะเข้าใกล้ ทำได้แค่เพียงการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ และสับเปลี่ยนกำลังดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้โขลงช้างป่ารุกคืบเข้าใกล้หมู่บ้าน และชุมชน สร้างความเสียหายให้กลับสวนยางพารา กล้วย สัปปะรด และมันสำปะหลัง
ขณะที่ชาวบ้านใน 2 หมู่บ้าน ยังคงหวาดผวากลัวโขลงช้างป่า จนไม่กล้าออกจากบ้านเพื่อไปกรีดยาง หรือขี่รถจักรยานยนต์รวมทั้งรถยนต์ผ่านเส้นทางดังกล่าว
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ลงพื้นที่เพื่อประชุมร่วมกับชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนผลักดันและขับไล่โขลงช้างป่าให้กลับขึ้นเขา เนื่องจากในวันที่ 5 มกราคมที่จะถึงนี้ จะเป็นวันที่นักเรียนเปิดเรียน
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณที่โขลงช้างอาศัยและหากินอยู่ตามแนวชายเขาใกล้เส้นทางที่ชาวบ้านใช้ในการสัญจรผ่านเข้าออกหมู่บ้าน จึงเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ประวัติซ้ำรอย จากที่มีชาวบ้าน ถูกช้างป่าแม่ลูกอ่อนวิ่งไล่รถรับส่งนักเรียน และใช้งาแทงรถรับส่ง จนมีนักเรียนและชาวบ้านได้รับบาดเจ็บรวมกัน 3 ราย
