ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นัดสืบพยานครั้งแรกคดี “หนิง-ปณิตา” ฟ้อง “ไฮโซน้ำหวาน” ชุลมุนเล็กน้อยหลังไฮโซน้ำหวานมาพร้อมการ์ดกว่า 10 คนคอยกันสื่อ ขณะที่ศาลสั่งให้ไกล่เกลี่ยแต่สุดท้ายเจรจาล่ม เหตุหนิงขอให้จำเลยขอโทษผ่านสื่อและชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ฝ่ายไฮโซสาวไม่ยอม
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่ห้องพิจารณา 613 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรกคดีหมิ่นประมาท หมายเลขคดีดำ อ.3648/2556 ที่นางปณิตา ธรรมวัฒนะ หรือหนิง อายุ 37 ปี ดารานักแสดง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.วรพรรณ พันธุ์คงชื่น หรือไฮโซน้ำหวาน และนางอำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น มารดา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
คำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2556 จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นแม่ลูกกันร่วมกันหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ด้วยการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนง ทำนองว่าโจทก์-น้องสาวโจทก์ กับพวก ร่วมกันทำร้ายร่างกายที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ โดยใช้โทรศัพท์มือถือตี น.ส.วรพรรณ จำเลยที่ 1 และข้อความอื่น ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ผู้ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของจำเลย เข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี รุมทำร้ายจำเลยได้รับบาดเจ็บ จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลออกหมายเรียกจำเลยมาแก้ต่างคดีและพิพากษาลงโทษ รวมทั้งให้จำเลยทั้งสองโฆษณาคำพิพากษา และขอขมาในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา 7 วัน ด้วย เหตุเกิดที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.และทั่วราชอาณาจักร
เมื่อถึงเวลานัดปรากฏว่า นางปณิตาพร้อมด้วยเพื่อนและผู้ติดตามได้เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลย มี น.ส.วรพรรณ และนางอำไพพรรณ มารดา เดินทางมาพร้อมด้วยการ์ดประมาณ 10 คน โดยแสดงกิริยาท่าทางกีดกันสื่อมวลชนไม่ให้เข้ามาภายในห้องพิจารณาคดี กระทั่งเจ้าหน้าที่ศาลต้องเข้ามาดูแลความเรียบร้อย โดยศาลได้พยายามให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ยกันซึ่งนางอำไพพรรณได้แถลงต่อศาลว่าฝ่ายจำเลยมิได้มีเจตนาหมิ่นประมาทแต่มีคนภายนอกแทรกแซง ดังนั้นศาลจึงให้คู่ความทั้งสองฝ่ายไปที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยและสมานฉันท์ ชั้น 7 ศาลอาญา โดยทั้งสองฝ่ายได้ใช้เวลาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันนานกว่า 3 ชั่วโมงแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ศาลจึงนัดสืบพยานจำเลยต่อในช่วงบ่ายวันนี้
ด้านนางปณิตาเปิดเผยภายหลังการไกล่เกลี่ยว่า ตนเองได้ขอให้ฝ่ายจำเลยขอโทษผ่านสื่อและให้ชี้แจงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพื่อให้สังคมรับรู้ว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร แต่ฝ่ายจำเลยไม่ยินยอม การไกล่เกลี่ยวันนี้จึงไม่สำเร็จ ส่วนคดีก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบพยานของฝ่ายจำเลย