ASTVผู้จัดการ - เชื่อหรือไม่? โค้งร้อยศพให้หวยโคตรแม่น ไม่มีวิญญาณร้าย ไม่มีอาถรรพณ์โค้งร้อยศพ เชื่อคนกรุงแห่แก้บนเพราะถูกหวย เผยถูก 3 ตัวจะจะ ต้องขนม้าลาย 12 ตัวถวาย คาดไม่มีใครกล้าตัดต้นโพธิ์ เตือนลบหลู่ระวังอาเพศ สาวร้านกาแฟเฝ้าโค้งผีสิงนาน 12 ปี ยันไม่มีผีหลอก-วิญญาณหลอน แต่อุบัติเหตุมาจากคนประมาท
“นงนี่ สายยศ” สาวสุรินทร์ วัย 27 ปี ชื่อนี้อาจจะออกอาการเหวอเพราะไม่เคยได้ยิน ไม่เคยรู้จัก แต่ถ้าอ่านเรื่องราวต่อไปนี้คุณอาจจะเปลี่ยนความคิด และยิ่งเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ เกี่ยวกับอาถรรพณ์โค้ง 100 ศพ ที่กำลังฮือฮาในสังคมไทยขณะนี้ บอกได้คำเดียวมีอึ้ง ด้วยข้อมูลของจริงที่ผ่านสายตาสาวเมืองช้างมานานถึง 12 ปี
นงนี่ สายยศ เป็นสาวต่างจังหวัดที่ดิ้นรนออกจากบ้านเกิด เดินทางสู่เมืองหลวงเพื่อค้นหาชีวิตที่ดีกว่า งานแรกที่เธอทำจนถึงวันนี้ยาวนานถึง 12 ปีก็คือพนักงานขายกาแฟสด ร้าน “คอฟฟี่ บลิส” ตั้งอยู่ในปั๊มซัสโก้ ถนนรัชดาภิเษก ตรงข้ามศาลอาญากรุงเทพฯ ใกล้กับโค้งร้อยศพที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ขณะนี้ระหว่างจิบอเมริกาโนร้อนรสเข้มเธอพูดคุยกับเราไปพร้อมกับบริการลูกค้ารายอื่นๆ อย่างคล่องแคล่ว
12 ปีกับอาชีพขายกาแฟสด เป็นลูกน้องเขาแต่มีชีวิตสุขสบายดี ประเดิมร้านพร้อมกับเจ้านายมาตั้งแต่เป็นปั๊มคิว 8 มาจนถึงปิโตรนาส และซัสโก้ตามกาลเวลา เรื่องราวเกี่ยวกับอาถรรพณ์โค้งร้อยศพ นงนี่บอกว่าเรื่องนี้ไม่ถึงกับเชื่อแต่ไม่ลบหลู่ เธอให้เหตุผลว่าน่าจะมาจากความประมาทเป็นส่วนใหญ่ และฟังจากเจ้านายบ้าง ลูกค้าที่มากินแล้วชวนคุยบ้าง สรุปว่าอีกเหตุผลน่าจะมาจากการออกแบบถนนที่มีปัญหา เพราะช่วงทางโค้งมีระยะกว้างหลายร้อยเมตร บวกกับเป็นทางลาด ลักษณะที่รถขับมาด้วยความเร็วสูงอาจเหวี่ยงหลุดโค้งไปได้
ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน มือชงกาแฟฝีมือเยี่ยมบอกว่า เห็นอุบัติเหตุช่วงทางโค้งนี้มานับไม่ถ้วน อาจจะเป็นร้อยครั้งหรือมากกว่านั้น และในแต่ละครั้งมีทั้งคนเจ็บ คนตายเฉลี่ยแล้วเดือนหนึ่งๆ จะมีประมาณ 2-3 ราย แต่ที่จำได้แม่นก็คือ เมื่อประมาณ 3-4 เดือนย้อนหลังไปนี้ ระหว่างบริการลูกค้าในร้านได้ยินเสียงโครมใหญ่แล้วเด็กในปั๊มวิ่งกันออมาดูริมถนนซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีเหตุให้ไทยมุงต้องออกมาหาอาหารตากันแล้วและเธอก็คือหนึ่งในนั้น
ภาพที่เห็นบริเวณป้ายรถประจำทางห่างจากปากซอยเสือใหญ่ หรือรัชดา 36 ประมาณ 20 เมตร มีรถเก๋งสีขาวยี่ห้อโตโยต้า วีออส จำเลขทะเบียนไม่ได้ พุ่งเสียบเข้าไปถึงที่นั่งป้ายรถเมล์ สภาพหน้ารถมีศพหญิงวัยกลางคนติดคาอยู่ ใกล้ๆ ยังมีชายอีกคนนอนร้องโอดโอยบาดเจ็บขาหัก แต่ที่จำฝังใจก็คือคนขับรถเก๋งยังนั่งตกตะลึงอยู่ในรถ พอพลเมืองดีซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างช่วยกันงัดประตูออกก็พบว่าเด็กสาวคนนั้นมือขวายังกำโทรศัพท์แนบหู “น้องเขาบอกว่าโทร.คุยกับเพื่อน พอถึงโค้งไม่ทันระวัง แทนที่จะเหยียบเบรกกับเป็นเหยียบคันเร่งรถจึงเสียหลักพุ่งเข้าชนป้ายรถเมล์”
“แต่ก็แปลกนะ ไม่เห็นเป็นข่าว รออ่านหนังสือพิมพ์ ดูโทรทัศน์ก็ไม่มีข่าว สงสัยคนตายไม่ใช่คนดัง” นงนี่แสดงความเห็นแบบค่อนข้างผิดหวัง
อีกรายหนึ่งที่จำได้ติดตา คือ วันเกิดเหตุเป็นช่วงเช้าวันอาทิตย์ เธอเพิ่งเดินทางมาจากบ้านพักย่านแคราย พอลงรถเมล์ก็เดินเลาะทางเท้ามาเรื่อยๆ ฝนก็ตกพรำๆ ผ่านต้นโพธิ์โค้งร้อยศพต้องยกมือไหว้ตามธรรมเนียมปฏิบัติ สักครู่เมื่อเดินถึงหน้าปั๊มใกล้อีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตูร้านแล้ว ได้ยินเสียงรถเบรกดังลั่นพอหันไปก็เห็นรถมอมอเตอร์ไซค์รุ่นฟีโน่ สีฟ้า มีหญิงอายุราว 30 ขับอยู่เลนซ้ายสุด แล้วรถตู้คันหนึ่งขับมาด้านหลังด้วยความเร็วในลักษณะเสียการทรงตัวแล้วพุ่งชนด้านหลังอย่างแรง
ภาพที่เห็นจะจะก็คือ ร่างของคนขับลอยคว้างบนอากาศแล้วตกลงมา ถุงกับข้าวที่ซื้อมาเตรียมกลับบ้านแตกกระจายเกลื่อนถนน หญิงเคราะห์ร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุโดยไม่มีโอกาสสั่งเสียใดๆ ส่วนรถคู่กรณีพลิกคว่ำพังยับ คนขับถูกส่งโรงพยาบาลและไม่รู้คดีความเป็นอย่างไร
“รู้เพียงแต่ว่าหญิงที่ตายเขาคงเป็นแม่ เป็นภรรยาที่ออกมาหาซื้อกับข้าวกำลังจะเข้าบ้าน แต่ก็ไปไม่ถึง ไม่ได้กลับบ้าน ลูกผัวก็คงรอกินข้าว คิดถึงว่าเป็นตัวเรามันน่าใจหายเหมือนกัน”
อีกตัวอย่างมีรถฟอร์จูนเนอร์ ไปติดตั้งเครื่องเสียงที่ร็อคเกตซาวน์ ปากซอยเสือใหญ่ พอเสร็จเขาขับออกมาตัดหน้ากับรถตู้หรือไรไม่ทราบ ชนกันโครมใหญ่ รถกลิ้งมาถึงหน้าปั๊ม คนเจ็บกระเด็นออกมาเกลื่อนถนน อันนี้ถือว่าอาถรรพ์หรือว่าประมาท
สำหรับกระแสข่าวโค้งร้อยศพในสายตาของเธอ นงนี่บอกว่าก็ดีนะ เมื่อตอนเที่ยงวานนี้ (8 ม.ค.) เห็นลูกค้าบอกว่ามีกองถ่าย ริว จิตสัมผัส ยกกองมา 2-3 รถตู้ถ่ายทำเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่าเชื่อหรือไม่ ก็คงบอกว่ากึ่งๆ คือเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ยังคิดว่าอุบัติเหตุมาจากความประมาท แถวสุรินทร์เขาก็เชื่อเรื่องคุณไสย แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้ว กรุงเทพฯ ไม่น่ามีอะไร แต่พอกลับบ้านจะพยายามปิดร้านก่อนมืด ไม่กล้าเดินตอนมืดเหมือนกัน เดินผ่านก็ยกมือไหว้ ไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ไม่กล้า
“ลูกค้าบอกว่าหมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม ทายว่าปีนี้จะมีคนใหญ่คนโตมาตายที่โค้งร้อยศพ พี่ป๋อง-กพล ทองพลับ รายการคนอวดผี ก็เคยมาคุยกับหนูที่ร้าน วันนี้มีริว จิตสัมผัสอีก เป็นข่าวดัง ปั๊มเขาจะได้ขายน้ำมัน หนูขายกาแฟ ช่วยๆ กัน”
เมื่อถามถึงการทำความสะอาดบริเวณที่คนนำสิ่งของมาเซ่นไหว้ และริว จิตสัมผัส เสี่ยงทายว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเจ้าที่อนุญาตให้สำนักงานเขตจตุจักรสามารถทำได้ นงนี่บอกว่าถ้าทำให้ดีขึ้น มีระเบียบขึ้นก็ดี เพราะแต่ก่อนคนที่ไปแก้บนไม่กล้าข้ามถนนเองต้องจ้างให้วินมอเตอร์ไซค์หอบม้าลาย หอบชุดไทยหรือกระทั่งนำน้ำแดง นำพวงมาลัยไปถวาย ก็เลยมีคนคิดทำบันไดลิงพาดกับสะพานลอยช่วงเกาะกลางถนน เขาก็สะดวกขึ้นคือข้ามสะพานลอยแล้วไต่ลงมาตามบันไดลิงลงไปยังเกาะกลาง เอาสิ่งของไปถวาย แต่ตอนนี้ทางเขตสั่งรื้อบันไดลิงแล้ว เวลาจะแก้บนทีก็ต้องหาจังหวะกันที ก็อาศัยช่วงการจราจรติดขัดมากๆ อย่างนั้นปลอดภัยดี เรื่องจัดระเบียบดี เห็นด้วยแต่ถ้าถึงกับขนข้าวของเซ่นไหว้ออกไป หรือโค่นต้นโพธิ์อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
ลองคุยกับคนแถวนี้แล้ว พวกวินมอเตอร์ไซค์ก็ไม่เห็นด้วยถ้าจะโค่นต้นโพธิ์ หรือกระทั่งเอาของแก้บนไปทิ้งที่อื่นเพราะแค่จัดระเบียบก็พอแล้ว “เราก็เห็นมานานเป็น 10 ปีแม้จะมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เรื่องการบนบานศาลกล่าวเป็นเรื่องของความเชื่อ อย่างเด็กปั๊มหรือพวกขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างเขาก็เห็นเป็นผู้หญิงแต่งชุดไทยไว้ผมยาวบ้าง เห็นเป็นชายสวมโจงกระเบนบ้าง บางคนก็เห็นเป็นเด็กของเซ่นไหว้จึงหลากหลาย ถ้าจะตัดต้นโพธิ์ให้ระวังจะเกิดอาเพศ เรื่องนี้ถึงไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ และเชื่อว่าคงไม่มีใครกล้ามารับจ้างแน่ๆ เพราะเรื่องอะไรที่มองไม่เห็น เรื่องลี้ลับคนไทยไม่กล้าเชื่อหนูเถอะ”
สุดท้ายของการสนทนา พร้อมกับกาแฟร้อนที่เย็นชืดไปแล้ว นงนี่บอกถึงความศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อของผู้คนบางกลุ่มที่วนเวียนมา “ขอ” และกลับมาแก้บนกันอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นข่าวฮิต น่าจะมาจากเรื่อง “ขอหวย” เป็นหลักๆ “ลูกค้าที่ร้านมีคนหนึ่งเขาไปขอ 3 ตัวบน บอกขอตรงๆ เลยนะว่าจะเอาม้าลายมาแก้บน 12 ตัว ปรากฏว่าเลขท้ายสามตัวงวดนั้นออกมาตรงเป๊ะแบบไม่ต้องกลับ ไม่ต้องโต๊ด น่าจะรวยไปหลายแสน เขาจึงกลับมาแก้บน ก็ให้วินมอเตอร์ไซค์ช่วยกันแบกม้าลายไปไหว้ท่านที่เกาะกลาง ส่วนการขอเรื่องงานก็มีบ้าง ทนายบางคน ลูกความบางคนขอให้ชนะคดี พอสมหวังเขาก็มาแก้บนกัน วันๆ มีคนมาขอเยอะ ถูกบ้างผิดบ้าง แต่คนถูกเขาก็มากัน หนูก็เคยขอแต่ไม่เคยถูก มันคงเกี่ยวกับดวงใครดวงมัน”
การสนทนาจบลงแค่นั้น แต่ทุกชีวิตต่างดำเนินกันต่อไป แม้แต่สาว “นงนี่” มือชงกาแฟสดรสดี ก็คงวนเวียนกับอาชีพของตัว เช้าเดินทางจากบ้านแถวๆ แคราย เพื่อมาเปิดร้านในตอนสาย เป็นหนังเรื่องเดียวฉายซ้ำๆ ยาวนานถึง 12 ปีและยังฉายต่อไปตามเส้นทางของชีวิตที่ดิ้นรน....
บทสรุประหว่าง นงนี่ สาวชงกาแฟ กับริว จิตสัมผัส ก็คือหนังเรื่องเดียวกัน แต่คนละเวอร์ชัน...ให้เลือกเสพตามรสนิยม...