นายบรรจง สุขดี รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวถึงกรณีการเก็บเครื่องเช่นไหว้บริเวณสะพานลอยคนข้ามหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกว่า การจัดเก็บของเซ่นไหว้ที่ต้องวางบนพื้นที่สาธารณะถือเป็นหน้าที่ของกทม.ที่ต้องดูแลความสะอาดเรียบร้อยของเมืองดังนั้นไม่ว่าพื้นที่ใดหากมีการตั้งวางสิ่งของเครื่องเซ่นไหว้บนทางเท้าหรือพื้นผิวการจราจรที่ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนกทม.ก็จะต้องดำเนินการทำความสะอาดและจัดเก็บสิ่งของดังกล่าวไปทำลายตามขั้นตอนทั้งนี้การจัดเก็บเครื่องเซ่นไหว้หรือสิ่งของที่เป็นพิธีกรรมทางศาสนาอาทิ ศาลพระภูมิต่างๆนั้นก็เกิดกรณีที่เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของกทม.บางคนที่ไม่กล้าที่จะดำเนินการซึ่งก็ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลกทม.ก็จะจัดหาเจ้าหน้าที่ที่พร้อมดำเนินการเข้ามาจัดการซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถจัดเก็บเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆได้ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดอย่างไรก็ตามการเซ่นไหว้หรือแสดงออกทางความเชื่อทางศาสนานั้นประชาชนสามารถกระทำได้แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่สาธารณะหรือบุคคลอื่น
ด้านนายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยว่า ในจุดดังกล่าวนั้นหรือที่เรียกกันว่าโค้งร้อยศพบนถนนรัชดาภิเษกนั้นเป็นจุดที่มีการนำของเซ่นไหว้เช่นตุ๊กตาม้าลาย ชุดไทยแบบต่างๆขวดน้ำอัดลม ขวดน้ำเปล่าเป็นต้น มาวางมานานมากแล้ว ตามความเชื่อของประชาชนซึ่งทางเขตก็เข้าใจดีและทางเขตเองก็มีการพิจารณาเพื่อทำความสะอาดและจัดเก็บในส่วนที่กระทบกับประชาชนมานานมากแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีการวางของเซ่นไหว้ไว้ที่โคนต้นโพธิ์แต่หลังจากนั้นมีการลุกลามออกมาจนเต็มเกาะกลางเนื่องจากมีการนำบันไดมาพาดเพื่อให้สามารถนำของลงไปวางที่ต้นโพธิ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเขตเห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงได้นำบันไดออก จึงทำให้คนที่นำของมาเซ่นไหว้นั้นนำของเซ่นมาวางไว้ที่สะพานลอยคนข้ามแทน ซึ่งกระทบกับประชาชนที่เดินสัญจรบนสะพานลอย ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดทำการจัดเก็บวันเว้นวัน หรือวันเว้น2วัน ตามปริมาณของเซ่นไหว้ที่มีเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวก ในส่วนของของเซ่นไหว้บริเวณโคนต้นโพธิ์ตรงเกาะกลางถนนนั้นทางเขตไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด
นายสุพิศ ไกรมากหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะสำนักงานเขตจตุจักร กล่าวว่าเขตจตุจักร ไม่มีแนวความคิดที่จะรื้อเครื่องเซ่นไหว้บริเวณต้นโพธิ์แต่อย่างใดเพียงแต่ทางฝ่ายรักษาความสะอาดฯมีแนวความคิดที่จะทำความสะอาดตรงบริเวณดังกล่าวเพราะพื้นที่บริเวณเกาะกลางที่มีต้นโพธิ์มีผู้คนจำนวนมากนำเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆไปวางเอาไว้และไม่มีใครเข้าไปดำเนินการทำความสะอาดเลยเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี มาแล้วนับตั้งแต่สร้างถนนเส้นรัชดาภิเษกทำให้กลายเป็นจุดสะสมขยะและเป็นอันตรายต่อคนที่สัญจรผ่านไปมา
นายสุพิศกล่าวต่อว่า เราไม่ได้จะรื้อศาลหรือไม่ให้มีการนำเครื่องเซ่นมากราบไหว้ยืนยันว่าเราไม่ได้จะเข้าไปทำอะไรที่จะกระทบกับความเชื่อความศรัทธาของประชาชนที่มีมาหลายสิบปีเพียงแต่เราต้องการจะปรับภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณเกาะกลางถนนตรงบริเวณนั้นให้มีความสะอาดไม่มีภัยอันตรายหรือมีสิ่งของไปกีดขวางการสัญจรผ่านไปมาของประชาชนจุดประสงค์คือต้องการจะทำให้ตรงนั้นเป็นจุดที่น่ากราบไหว้สำหรับผู้มีความเชื่อโดยอาจจะจัดให้มีการทำความสะอาดครั้งใหญ่ปีละ1ครั้ง หรืออาจจะ 10 ปี ครั้งก็ได้ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องนำเข้าที่ประชุมผู้บริหารเขตฯก่อน ซึ่งของเซ่นไหว้ในส่วนของม้าลายที่ในแต่ละวันจะมีคนนำมาเซ่นไหว้รวมกว่า 20-30 ตันนั้นเนื่องจากมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมากจึงกำหนดเก็บทิ้งสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง โดยครื่องเซ่นที่มีประชาชนนำมาไหว้แล้วก็จะกลายเป็นขยะซึ่งก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯที่จะต้องเก็บเอาไปทิ้งส่วนม้าลายนั้นก็จะนำไปใช้เป็นเศษวัสดุในการถมที่ดินต่อไป
อย่างไรก็ตามในเรื่องดังกล่าวสำหรับผู้บริหาร กทม.เองก็ไม่ได้มีการกำชับหรือสั่งการอะไรเพราะการทำงานของเขตก็เป็นการทำงานในเรื่องการดูแลความสะอาดตามปกติโดยพิจารณาความเหมาะสมหากจุดใดกระทบหรือเป็นปัญหากับประชาชนก็ต้องพิจารณาเก็บเพื่อความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยและยืนยันว่าเขตไม่ได้มีเจตนาลบหลู่หรือจงใจกระทำการที่เป็นการดูหมิ่นความเชื่อหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด
ด้านนายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยว่า ในจุดดังกล่าวนั้นหรือที่เรียกกันว่าโค้งร้อยศพบนถนนรัชดาภิเษกนั้นเป็นจุดที่มีการนำของเซ่นไหว้เช่นตุ๊กตาม้าลาย ชุดไทยแบบต่างๆขวดน้ำอัดลม ขวดน้ำเปล่าเป็นต้น มาวางมานานมากแล้ว ตามความเชื่อของประชาชนซึ่งทางเขตก็เข้าใจดีและทางเขตเองก็มีการพิจารณาเพื่อทำความสะอาดและจัดเก็บในส่วนที่กระทบกับประชาชนมานานมากแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีการวางของเซ่นไหว้ไว้ที่โคนต้นโพธิ์แต่หลังจากนั้นมีการลุกลามออกมาจนเต็มเกาะกลางเนื่องจากมีการนำบันไดมาพาดเพื่อให้สามารถนำของลงไปวางที่ต้นโพธิ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเขตเห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงได้นำบันไดออก จึงทำให้คนที่นำของมาเซ่นไหว้นั้นนำของเซ่นมาวางไว้ที่สะพานลอยคนข้ามแทน ซึ่งกระทบกับประชาชนที่เดินสัญจรบนสะพานลอย ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดทำการจัดเก็บวันเว้นวัน หรือวันเว้น2วัน ตามปริมาณของเซ่นไหว้ที่มีเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวก ในส่วนของของเซ่นไหว้บริเวณโคนต้นโพธิ์ตรงเกาะกลางถนนนั้นทางเขตไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด
นายสุพิศ ไกรมากหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะสำนักงานเขตจตุจักร กล่าวว่าเขตจตุจักร ไม่มีแนวความคิดที่จะรื้อเครื่องเซ่นไหว้บริเวณต้นโพธิ์แต่อย่างใดเพียงแต่ทางฝ่ายรักษาความสะอาดฯมีแนวความคิดที่จะทำความสะอาดตรงบริเวณดังกล่าวเพราะพื้นที่บริเวณเกาะกลางที่มีต้นโพธิ์มีผู้คนจำนวนมากนำเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆไปวางเอาไว้และไม่มีใครเข้าไปดำเนินการทำความสะอาดเลยเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี มาแล้วนับตั้งแต่สร้างถนนเส้นรัชดาภิเษกทำให้กลายเป็นจุดสะสมขยะและเป็นอันตรายต่อคนที่สัญจรผ่านไปมา
นายสุพิศกล่าวต่อว่า เราไม่ได้จะรื้อศาลหรือไม่ให้มีการนำเครื่องเซ่นมากราบไหว้ยืนยันว่าเราไม่ได้จะเข้าไปทำอะไรที่จะกระทบกับความเชื่อความศรัทธาของประชาชนที่มีมาหลายสิบปีเพียงแต่เราต้องการจะปรับภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณเกาะกลางถนนตรงบริเวณนั้นให้มีความสะอาดไม่มีภัยอันตรายหรือมีสิ่งของไปกีดขวางการสัญจรผ่านไปมาของประชาชนจุดประสงค์คือต้องการจะทำให้ตรงนั้นเป็นจุดที่น่ากราบไหว้สำหรับผู้มีความเชื่อโดยอาจจะจัดให้มีการทำความสะอาดครั้งใหญ่ปีละ1ครั้ง หรืออาจจะ 10 ปี ครั้งก็ได้ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องนำเข้าที่ประชุมผู้บริหารเขตฯก่อน ซึ่งของเซ่นไหว้ในส่วนของม้าลายที่ในแต่ละวันจะมีคนนำมาเซ่นไหว้รวมกว่า 20-30 ตันนั้นเนื่องจากมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมากจึงกำหนดเก็บทิ้งสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง โดยครื่องเซ่นที่มีประชาชนนำมาไหว้แล้วก็จะกลายเป็นขยะซึ่งก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯที่จะต้องเก็บเอาไปทิ้งส่วนม้าลายนั้นก็จะนำไปใช้เป็นเศษวัสดุในการถมที่ดินต่อไป
อย่างไรก็ตามในเรื่องดังกล่าวสำหรับผู้บริหาร กทม.เองก็ไม่ได้มีการกำชับหรือสั่งการอะไรเพราะการทำงานของเขตก็เป็นการทำงานในเรื่องการดูแลความสะอาดตามปกติโดยพิจารณาความเหมาะสมหากจุดใดกระทบหรือเป็นปัญหากับประชาชนก็ต้องพิจารณาเก็บเพื่อความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยและยืนยันว่าเขตไม่ได้มีเจตนาลบหลู่หรือจงใจกระทำการที่เป็นการดูหมิ่นความเชื่อหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด
