บช.น.แถลงผลจับกุม 2 คดี คดีแรกเหตุพี่ชายทำร้ายน้องชายขี้เมาเสียชีวิตที่ดอนเมือง อีกรายโจ๋ใช้อาวุธจี้ชิงทรัพย์เด็กนักเรียนบริเวณป้ายรถเมล์ชิงมือถือไปขาย นำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. แถลงผลการจับกุม นายจรินทร์ จอกจาน อายุ 39 ปี พร้อมของกลางเป็นท่อนเหล็กสี่เหลี่ยมยาวประมาณ 48 ซม. 1 อัน พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายจเร จอกจาน อายุ 38 ปี ผู้เป็นน้องชายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในบ้านพักย่านดอนเมือง เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา แล้วหนีไปที่ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุม โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาพร้อมยืนยันว่าได้เป็นผู้ลงมือทำร้ายน้องของจริง เพราะน้องชายมีนิสัยชอบดื่มสุรา โดยวันเกิดเหตุน้องชายก็ได้เข้ามาขอเงินกับมารดา แต่มารดาไม่ให้น้องชายจึงบีบคอมารดา ตนเห็นทนไม่ได้จึงเข้าไปช่วยพร้อมกับใช้ท่อนเหล็กตีที่ขาและได้ชกต่อยกัน หลังจากนั้นน้องชายก็ขึ้นไปนอน ตนจึงออกไปทำธุระ พอกลับมาจึงขึ้นไปดูเห็นน้องชาย ปรากฏว่าได้นอนแน่นิ่งแล้ว ยืนยันไม่คิดจะฆ่าน้องชาย จึงได้หลบหนีพร้อมลูกชายวัย 4 ขวบ หวังจะเอาลูกไปฝากไว้กับภรรยาเก่าที่ชลบุรี แต่มาถูกจับได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เตรียมนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 แถลงผลการจับกุม นายขวัญ ยอมิน หรือบอย อายุ 21 ปี และนายเกียรติกร ยอมิน หรือบลูม อายุ 23 ปี พร้อมของกลางจักรยานยนต์ ทะเบียน 3 กฆ 3911 กทม. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ รวม 5 เครื่อง และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองได้ขี่จักรยานยนต์ชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 และใช้อาวุธมีดแทงนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ขณะรอรถโดยสารบริเวณป้ายรถเมล์ ใกล้กับหมู่บ้านโฮมเพลสพัฒนาการ ถนนพัฒนาการ แขวงละเขตสวนหลวง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีไป เกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยมีนายเกียรติกร เป็นผู้ขับขี่ และมีนายขวัญเป็นผู้ซ้อน โดยในวันเกิดเหตุได้ขี่จักรยานยนต์ตระเวนหาเหยื่อเพื่อชิงโทรศัพท์ไปขายหาเงินซื้อยาเสพติด จนกระทั่งพบผู้เสียหายยืนเล่นโทรศัพท์อยู่บริเวณดังกล่าวจึงลงมือก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจแทง แต่ผู้เสียหายไม่ยอมให้ของจนเกิดการฉุดกระชากกันขึ้นและหกล้ม มีดจึงไปโดนบริเวณหน้าท้องของผู้เสียหาย พอได้โทรศัพท์จึงหลบหนีไป หลังจากนั้นได้นำโทรศัพท์ไปขายต่อให้ผู้ค้ายาเสพติดในซอยอ่อนนุช 49 ชื่อนายบาส (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ในราคาเครื่องละ 600 บาท จากนั้นจะนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดเสพ ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 6 ครั้ง และมักเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กเพราะเด็กจะไม่กล้าขัดขืน ทั้งนี้ นายขวัญเคยถูกจับในคดียาเสพติดในพื้นที่ สน.ประเวศ เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 57 ส่วนนายเกียรติกรเคยถูกจับในคดียาเสพติดพื้นที่ สน.พระโขนง เมื่อปี 57
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัสโดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป