ASTVผู้จัดการ - นิติเวชฯเผย5 ศพ ผูกคอดับที่บางยี่เรือ เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ โดยการถูกรัดบริเวณลำคอ ตร. ยังไม่ปักใจเชื่อเป็นการฆ่าตัวตาย คาดมีการเตรียมการ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ตายไปซื้อเชือกที่หน้าปากซอย จ่อเรียกเพื่อนบ้านให้ปากคำเพิ่ม 2 ม.ค. นี้ ด้านอดีตภรรยาติดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ แต่ไม่ระบุเวลา
วันนี้ (1 ม.ค.) ที่ สน.บางยี่เรือ พ.ต.ท.เทพวิสิทธิ์ โพธิเก่งฤทธิ์ รอง ผกก.ป. สน.บางยี่เรือ กล่าวถึงกรณีพบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ศพ ภายในบ้านเลขที่ 174 ซอยอินทรพิทักษ์ 1 แยก 2 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 1 คูหา เมื่อเวลา 20.30 น. วานนี้ (31 ธ.ค.) โดยชั้นล่างพบศพนางเคี้ยงเซี้ยม แซ่ลิ้ม อายุ 89 ปี น.ส.เพชรรัตน์ จารุพรรณกิจ อายุ 61 ปี สภาพศพไม่พบบาดแผลตามร่างกาย แต่ปากมีสีม่วงคล้ายดื่มยาพิษเข้าไป และชั้นที่ 2 พบศพ นายอนันต์ จารุพรรณกิจ หรือ เสี่ยชัย อายุ 64 ปี อดีตพ่อค้าขายของที่ระลึกย่านเยาวราช ด.ช.อภิสิทธิ์ จารุพรรณกิจ อายุ 14 ปี นักเรียน ชั้น ม.4 โรงเรียนเทพศิรินทร์ และ น.ส.สุวรรณทิพย์ จารุพรรณกิจ อายุ 16 ปี นักเรียน กศน. ลูกชายและลูกสาว สภาพใช้เชือกผูกคอตัวเอง ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย โดยแต่ละศพมีปากเป็นสีม่วงเช่นเดียวกันว่า
จากการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุบริเวณชั้นที่ 1 พบผงยาสีชมพู ซึ่งคาดว่าเป็นยาเบื่อหนู วางอยู่ข้างเตียงที่พบศพนางเคี้ยงเซี้ยม และ น.ส.เพชรรัตน์ แม่และน้องสาวของนายอนันต์ โดยพบเลือดไหลออกที่บริเวณหูข้างขวาของนางเคี้ยงเซี้ยม ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยา ส่วนที่ชั้น 2 เจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตาย จำนวน 3 แผ่น จากการตรวจสอบเปรียบเทียบลายนิ้วมือ เชื่อว่าเป็นลายมือของ น.ส.สุวรรณทิพย์ ลูกสาวคนโตของนายอนันต์ โดยมีข้อความทำนองตัดพ้อ น้อยเนื้อต่ำใจที่แม่ไม่ดูแลปล่อยให้อยู่ลำบากกับพ่อ
นอกจากนี้ ยังพบมีดปอกผลไม้ จำนวน 2 เล่ม ตกอยู่หน้าศพของ น.ส.สุวรรณทิพย์ จึงเป็นไปได้ที่นายอนันต์จะใช้มีดบังคับลูกสาวให้เขียนจดหมาย แต่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งต้องรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง
พ.ต.ท.เทพวิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนวันเกิดเหตุเพียง 1 วัน นายอนันต์ได้ออกไปซื้อเชือกที่บริเวณหน้าปากซอยบ้าน จึงเชื่อว่าเป็นการเตรียมการก่อเหตุดังกล่าว
สำหรับปัญหาการถูกไล่ที่ค้าขายและการย้ายออกจากบ้านนั้น จากการตรวจสอบพบว่านายอนันต์ชำระค่าเช่าร้านและค่าเช่าบ้านแล้ว โดยไม่มียอดค้างชำระแต่อย่างใด ซึ่งนายอนันต์ได้นัดคืนบ้านกับทางเจ้าของบ้านเช่าตอนเวลา 16.00 น. ของวันเกิดเหตุ แต่เมื่อเจ้าของบ้านเช่าไปหาก็ไม่พบ อีกทั้งยังได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกจากบ้านดังกล่าวดังอยู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจใช้กุญแจไขเข้าไปดูก็พบว่าบุคคลที่อยู่ในบ้านทั้ง 5 รายเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า นางเคี้ยงเซี้ยม และ น.ส.เพชรรัตน์ สองศพที่พบบริเวณชั้น 1 อาจถูกฆาตกรรม เพราะลักษณะการนอนเสียชีวิตบนเตียงแล้วมีผ้าคลุมคล้ายกับมีคนจัดท่านอนให้ โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนภายในบ้าน เนื่องจากตรวจสอบภายในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้น และไม่มีทรัพย์สินสูญหายไป
ส่วนอีก 3 ศพที่พบบริเวณชั้น 2 นั้น รอง ผกก.ป. สน.บางยี่เรือ ระบุว่า จากประสบการณ์ด้านการทำงานของตน ปกติคนที่ผูกคอเสียชีวิตสภาพศพมักจะมีสภาพลิ้นจุกปาก แต่ที่ปากศพทั้งสามกลับมีเพียงรอยม่วงคล้ำเหมือนกินยาพิษเข้าไป จึงคาดว่าผู้ตายกินยาพิษเข้าไปด้วย แต่จะเต็มใจกินเองหรือไม่นั้นยังสรุปไม่แน่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องคนนอกลงมือก่อเหตุทิ้ง คงจะต้องรอผลตรวจลายนิ้วมือแฝงด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 5 วัน พร้อมนำหลักฐานที่พบทั้งหมดส่งไปตรวจพิสูจน์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
ด้าน ร.ต.ท.จักรพันธ์ จิตต์แก้ว ร้อยเวร สน.บางยี่เรือ เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุตนได้รับการติดต่อจากอดีตภรรยาของนายอนันต์ ทราบชื่อคือ นางอุไรวรรณ เสริมศักดิ์ อายุประมาณ 50 ปี ว่าจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ เพียงแต่ไม่ได้แจ้งเวลาไว้ชัดเจน เนื่องจากยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเวลาทำใจอีกสักระยะหนึ่งก่อน ส่วนเพื่อนบ้านใกล้เคียงนั้น เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ (2 ม.ค.) เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ครอบครัวผู้ตายมีปัญหาหนี้สินอะไรบ้าง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่านายอนันต์ได้ยืมเงินภรรยาที่เลิกรากันไปแล้ว มาใช้โดยตลอด แต่จะไปกู้เงินกับนายทุนรายอื่นด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานปรากฏ ส่วนจดหมายลาตายที่พบในบ้านที่เกิดเหตุนั้นได้ส่งไปให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบแล้ว เพื่อเปรียบเทียบลายนิ้วมือว่าใครเป็นคนเขียนจดหมายดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบขวดเป๊ปซี่ลิตร 2 ขวด ที่พบภายในบ้านทั้งขวดเปล่าและที่มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งขวดว่า มียาพิษผสมในน้ำด้วยหรือไม่
ในวันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ (ผบก.นต. รพ.ตร.) เปิดเผยว่า สำหรับผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตทั้ง5 รายนั้น ในเบื้องต้นทางแพทย์ผู้ชันสูตรได้ลงความเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ โดยการถูกรัดบริเวณลำคอ ส่วนเรื่องของการตรวจหาสารพิษที่ตกค้างในร่างกายนั้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ ซึ่งคาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 5 วันถึงจะทราบผล เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงวันหยุดของเทศกาลปีใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่พบว่า ยังไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เดินทางมาแจ้งติดต่อขอรับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาแต่อย่างใด ขณะที่บรรดาสื่อมวลชนต่างมาเฝ้าติดตามความคืบหน้าจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่พบบุคคลใดที่เป็นญาติของผู้เสียชีวิตเช่นกัน
