xs
xsm
sm
md
lg

"สมยศ" ยันพร้อมรับมือรปภ.ช่วงงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.ยืนยันความพร้อมการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานเคานต์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่ ระบุทางการข่าวยังไม่มีข้อมูลถึงเหตุร้าย นอกจากนี้ยังได้ฤกษ์เปิดศูนย์ 191 ทั่วประเทศ หลังยกเครื่องใหม่ "โทรต้องติด ติดต้องมีคนรับ" ยันมาตรการทางกม.รับมือพวกป่วนสาย

วันนี้(29 ธ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยการจัดงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ หรือ งานเคานต์ดาวน์ ในพื้นที่ต่างๆ โดยระบุว่า จะมีการจัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว ประจำตามจุดที่มีการจัดงาน โดยเฉพาะ บริเวณแยกราชประสงค์ เอเชียทีค และสนามหลวง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานด้านการข่าวกับหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ อย่างใกล้ชิด และยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ จากทางการข่าวยังไม่มีข้อมูลถึงเหตุร้าย หรือความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ จึงขอให้ประชาชนอุ่นใจในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สำหรับคืนวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ตนเองรวมทั้งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีติดตามสถานการณ์ประจำการอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป

พล.ต.อ.สมยศ เป็นประธานเปิดในพิธีเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ภายหลังมีการปรับปรุงทั้งบุคคลากร อุปกรณ์ และระบบรับแจ้งเหตุให้มีความทันสมัย โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ผบช.สทส.) เข้าร่วม โดยผบ.ตร.ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ของจังหวัดต่างๆ อาทิ นครปฐม เชียงราย ฉะเชิงเทรา สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น สมุทรสาคร นนทบุรี เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานของศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 พร้อมกันนี้ ยังร่วมทดสอบระบบรับแจ้งเหตุที่ปรับปรุงใหม่ด้วย

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ระบบที่ปรับปรุงใหม่นี้ อยู่ภายใต้หลักการ "เลขหมายเดียวใช้ได้ทั่วประเทศ" โดยขณะนี้ หากประชาชนโทรศัพท์แจ้งเหตุทางหมายเลข 191 ในเขตจังหวัดใด ก็จะไปติดที่ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ของจังหวัดนั้น โดยทุกศูนย์จะมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 15 คู่สาย รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีการบันทึกการแจ้งเหตุด้วยคอมพิวเตอร์ ควบคุมสั่งการให้สายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนมีการติดตามความคืบหน้า เพื่อให้ประชาชนเกิดความพอใจสูงสุด

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 มักจะถูกตำหนิจากพี่น้องประชาชนว่าเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน หรือมีความจำเป็นเร่งด่วน มักจะโทรไม่ติด หรือ ติดแต่สายไม่ว่าง ทำให้เกิดทัศนคติในทางลบกับตำรวจ ตนจึงสั่งการให้พัฒนาระบบของศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ให้มีความพร้อมในการรับแจ้งเหตุด่วยเหตุร้ายต่างๆ พร้อมรับใช้ประชาชนในทุกๆ ด้าน

"เราเล็งเห็นว่าสายด่วน 191 เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพี่น้องประชาชน เมื่อมีเหตุด่วนเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่วาจะเป็นเรื่องน้ำไม่ไหล ไฟดับ ต้นไม้ล้ม งูเข้าบ้าน ไม่รู้ว่าจะโทรหาหน่วยงานไหนก็โทรมาที่นี่ ในอดีตเป็นอย่างไรเราไม่พูดถึง แต่เวลานี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมที่จะรับใช้พี่น้องประชาชน ต่อไปนี้ศูนย์นย์รับแจ้งเหตุ 191 โทรแล้วต้องติด ติดแล้วต้องมีคนรับสาย "ผบ.ตร.กล่าว และว่าอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่โทรมาก่อกวน ซึ่งมีมากในช่วงก่อนหน้านี้ว่า อยากให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว เพราะจะทำให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ ไม่ได้รับการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยหลังจากนี้ได้กำชับให้มีการตรวจสอบ โดยหากพบจะมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน หากยังไม่เลิกก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เป็นหนึ่งในสองนโยบายที่ตนต้องการมอบให้เป็นของขวัญกับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ อีกเรื่องหนึ่งคือการวางมาตรการแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม โดยขณะนี้ทุกสี่แยกในพื้นที่กทม.มีการนำระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรรีโมทคอนโทรลมาใช้ โดยภายในเดือน ม.ค.2558 จะครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะช่วยลดปัยหาการจราติดขัดได้ในระดีบหนึ่ง นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้พัฒนา ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร หรือ บก.02 ให้มีเครื่องที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าปีใหม่ที่จะถึงนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสามารถทำอะไรหลายอย่างให้ประชาชนมีความสุขกับการใช้บริการของตำรวจ ช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจจราจรในพื้นที่




กำลังโหลดความคิดเห็น