สมาคมผู้สื่อข่าวฯอาชญากรรม ตั้งฉายา 11 บิ๊ก ตร. และ 1 วลีเด็ดในปี 2557 “สมยศ - ผบ.ขายฝัน”
วันนี้ (21 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคม ร่วมกันแถลงข่าวการตั้งฉายาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คณะนายตำรวจที่อยู่ในความสนใจของสังคม และวลีเด็ดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
นายไพโรจน์ กล่าวว่า ทางสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย มีการประชุมหารือกันเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดทั้งปี 2557 และมีการตั้งฉายาให้กับองค์กรตำรวจ รวมทั้งนายตำรวจที่ตกเป็นข่าว หรือเป็นที่น่าสนใจของประชาชน เพื่อสะท้อนแง่คิด ติชม ยกย่อง ให้เห็นถึงผลงานที่ผ่านๆ มาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการตั้งฉายา หรือ ชื่อเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำปี 57 ทั้ง 12 ชื่อ ประกอบด้วย
1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้รับฉายา ตร.ลายพราง เพราะที่ผ่านมาบทบาทขององค์กรตำรวจอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละครั้ง จะมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จึงเป็นเหตุให้คนมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานต่างๆ ภายใต้การดูแลของฝ่ายทหาร
2. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้รับฉายา ผบ.ขายฝัน เพราะหลังจากที่ได้รับตำแหน่ง ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายด้าน โดยเฉพาะโครงการดูแลขวัญกำลังใจแก่ตำรวจใต้บังคับบัญชา ที่ระบุว่า จะทำให้ข้าราชการตำรวจอยู่ดีกินดี ไม่ให้มีการรับสินบน หรือการฆ่าตัวตาย เพราะเครียดเรื่องงาน หนี้สิน แต่นโยบายดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า หรือไม่ปรากฏเลย จึงเป็นเหตุให้ ผบ.ตร. ได้รับฉายาไปโดยสิ้นเชิง
3. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้รับฉายา เอกโลกลืม เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ และ พล.ต.อ.เอก เป็นคู่แข่งด้านการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ เพื่อแย่งชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. แต่เมื่อ ก.ต.ช. มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.สมยศ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก จึงมีบทบาทหน้าที่ในการบริหารงาน และดูแลคดีต่างๆ ลดลง รวมทั้งการปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนน้อยครั้งอย่างเห็นได้ชัด
4. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. ได้รับฉายา รองแตกฟอง เพราะหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผบ.ตร. โดยดูแลควบคุมงานด้านอาชญากรรมต่างๆ รวมทั้งคดีอุกฉกรรจ์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่ง พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ ก็มักจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และมักจะให้ข้อมูลของคดีนั้น แก่สื่อมวลชนโดยละเอียดอีกด้วย
5. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ได้รับฉายา โฆษกหน้าย่น เพราะหลังจากที่ได้รับการแต่งให้เป็นโฆษก ตร. นั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ ได้ตอบข้อสงสัยต่างๆ ของสื่อมวลชนได้อย่างชัดเจน ซึ่งแต่ละครั้งที่ให้สัมภาษณ์มักมีสีหน้าที่เคร่งเครียด ไม่ค่อยมีรอยยิ้มเท่าที่ควร จึงได้รับฉายาดังกล่าว
6. พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ได้รับฉายา นายพลช็อกโลก เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นที่นับหน้าถือหน้าตาในหมู่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันจนไปถึงนานาชาติ และยังเป็นที่ยอมรับในหมู่เอฟบีไออีกด้วย แต่เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกจับกุมในข้อหาต่างๆ โดยมีการตรวจยึดทรัพย์สินของอดีต ผบช.ก. กว่า 2 พันล้านบาท
7. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้รับฉายา น.1 เอาคืน ภายหลังที่ได้รับตำแหน่ง ผบช.น. ได้สั่งการให้ตรวจสอบการบริหารงานที่ผิดปกติของหน่วยงานต่างๆ จนกระทั่งพบปัญหาการติดตั้งป้ายโฆษณาของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่มีความผิดปกติ ขัดต่อระเบียบ และแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้อง จึงมีคำสั่งให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และทำการรื้อป้ายโฆษณาดังกล่าว พร้อมส่งสำนวนรายงาน ผบ.ตร.
8. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ได้รับฉายา มิสเตอร์โปรเจกต์ เพราะที่ผ่านมา พล.ต.ต.อดุลย์ ดูแลเรื่องการจราจรมาโดยตลอด และมีแนวคิดเรื่องการแก้ไขปัญหาการจราจรหลายวิธี ประกอบด้วย โครงการจับประชาชนทำผิดติดสินบนตำรวจจราจร, คลินิกตำรวจจราจร, โครงการแก้ไขปัญหาจราจรกรณีน้ำท่วมขังและอุทกภัย, โครงการจัดตั้งศาลจราจร, โครงการผู้พิทักษ์ถนน เป็นต้น แต่พบว่ายังมีปัญหาจราจรติดขัด รวมทั้งโครงการต่างๆ มีประชาชนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
9. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. ได้รับฉายา สมบัติคัมแบ็ก ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สมบัติ ถูกย้ายไปอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ถึง 4 ปี แต่เมื่อถึงวาระเปลี่ยนแปลง ผบ.ตร. และ ผบช.น. คนใหม่ พล.ต.ต.สมบัติ จึงได้รับมอบหมายให้กลับมาดูแลงานสืบสวน บช.น. อีกครั้ง
10. ร.ต.ต.ธีรเดช เล็กภู่ รอง สว.จร. สน.ภูธรแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับฉายา วีรบุรุษผ่านฟ้า ซึ่งเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ช่วงการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. ร.ต.ต.ธีรเดช ได้เข้ามาทำหน้าที่ควบคุมฝูงชน บริเวณสะพานมัฆวาน ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่มีคนร้ายไม่ทราบชื่อ ขว้างระเบิดมาตรงแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ ร.ต.ต.ธีรเดช จึงเตะระเบิดออกไป เพื่อให้ห่างจากแนวกั้น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
11. พ.ต.อ.เด่นชัย บุตรโพธิ์ศรี อดีตนักบิน (สบ5) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ได้รับฉายา นักบินนอกรันเวย์ เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาปลอมแปลงเอกสารคำสั่ง ผบ.ตร. เข้าตรวจค้นสถานบริการ ย่านห้วยขวาง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวเข้ามาร่วมปฏิบัติการด้วย จึงพบว่าเอกสารการตรวจค้นสถานบริการดังกล่าวเป็นของปลอม ทางผบ.ตร.จึงสั่งให้ออกจากราชการและแจ้งข้อหาดำเนินคดีทันที
และ 12. วลีเด็ดแห่งปีของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.คนล่าสุด “ในยุคสมัยของผม ใหญ่แค่ไหนก็จับ” ซึ่งเป็นคำที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ในคดีการจับกุมเครือข่ายอดีต ผบช.ก. พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ กับพรรคพวก พร้อมแถลงผลการตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าประโยคดังกล่าวเด็ดจนต้องถูกขนานนามทันที