ตร.เชื่อโกงเงินสถาบันเจ้าคุณทหารฯ เป็นขบวนการ ดึง ปปง.สอบเส้นทางการเงินซ้ำ

บช.ก.แถลงรวบตัวอดีต ผจก.แบงก์กรุงศรีฯ ร่วมกับ ผอ.กองคลัง ยักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง 1.6 พันล้าน ขณะที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ พบมีการทำบัญชีธนาคารปลอมเพื่อหลอกลวงว่าเงินยังมีอยู่ในบัญชีธนาคาร และถ่ายโอนไปบุคคลที่ 3 คาดกระทำกันเป็นขบวนการ ประสาน ปปง.สอบเส้นทางการเงิน

วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.ก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผกก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ อยู่บ้านเลขที่ 47/5 ถ.ชิดลม ตำบลและอำเภอแม่ฮอด จ.ตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 2320/2557 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2557 และน.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อยู่บ้านเลขที่ 562 ซ.จ่าโสด แขวงเขตบางนา กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 2321 /2557 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2557 ในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันลักทรัพย์

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ตรวจพบว่าได้มีการลักทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และในวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสถาบันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1.บก.ป. ให้ดำเนินคดีต่อนายทรงกลดและน.ส.อำพร ในความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารปลอม และร่วมกันลักทรัพย์ ด้วยเหตุที่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ซึ่งขณะนั้น น.ส.อำพรได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการคลังของสถาบัน ได้ทำเรื่องถอนอนุมัติเงินของสถาบัน ซึ่งฝากไว้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จำนวน 50 ล้านบาท และเงินของสถาบันที่ฝากไว้กับธนาคารกรุงไทย สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จำนวน 30 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 80 ล้านบาท ออกไปโดยอ้างว่าจะนำเงินไปฝากรวมกับบัญชีของสถาบันอีกบัญชีหนึ่งเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราเดิม โดยนำไปฝากที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ ซึ่งมีนายทรงกรดเป็นผู้จัดการสาขาอยู่

พ.ต.อ.จิรภพกล่าวว่า ต่อมานายเผ่าภัค ศิริสุข รักษาราชการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พบข้อพิรุธเกี่ยวกับเงินกองกลางของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบบัญชีธนาคารตามที่มีการกล่าวอ้างว่าได้นำเงินเข้าบัญชีธนาคารนั้นๆ กระทั่งพบว่าไม่มีการนำเงินเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด ส่วนรายการยอดเงินในบัญชีเป็นเพียงรายการปลอมที่ทำขึ้นเพื่อหลอกลวงว่าเงินยังมีอยู่ในบัญชีธนาคารเท่านั้น ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ จึงได้ดำเนินการตรวจสอบเงินกองกลางที่ฝากไว้ในบัญชีธนาคารต่างๆ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน จึงพบว่ามีเงินอีกจำนวน 1,583 ล้านบาทได้หายไป รวมแล้วเป็นจำนวน 1,663 ล้านบาท เป็นความเสียหายอย่างมาก ทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนทำการอนุมัติขอหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง จนกระทั่งเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายทรงกรดได้ที่บริเวณย่านอ่อนนุช และสามารถติดตามตัว น.ส.อำพรได้ขณะที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางนา ก่อนที่จะทำการอายัดตัว น.ส.อำพรไว้เพื่อดำเนินคดี

พ.ต.อ.อัครเดชกล่าวว่า จากการตรวจสอบแคชเชียร์เช็คพบว่ามีการนำเงินเข้าไปฝากในบัญชีของนายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่านายพูลศักดิ์เป็นใครและมีความเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม คดีนี้เชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน หลังจากนี้ได้ประสานไปยังทางสำนักงาน ปปง.เพื่อมาร่วมทำการตรวจสอบบัญชี รวมทั้งความเคลื่อนไหวของเส้นทางเงิน หากพยานหลักฐานไปถึงตัวผู้ใดก็จะนำตัวมาดำเนินคดีทันที

ขณะที่นายทรงกลดในเบื้องต้นให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.อำพร ในฐานะพนักงานธนาคารกับลูกค้า โดยรู้จักกันมานานร่วม 10 ปี มีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ในการทำธุรกรรมการเงินทุกครั้งจะเดินทางไปพบกับ น.ส.อำพร เพื่อรับเอกสารการเบิกถอน หรือโอนเงิน ที่ผ่านมาในการทำธุรกรรม น.ส.อำพรจะนำเอกสาร มีลายเซ็นการมอบอำนาจครบถ้วน ประกอบกับ น.ส.อำพรเป็นข้าราชการระดับสูง และเป็นหน่วยงานน่าเชื่อถืออย่างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ไม่คิดว่าจะเกิดการทุจริต จึงดำเนินการให้ตาม น.ส.อำพรทุกครั้งด้วยความเชื่อใจ ไม่คิดว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้ ขณะนี้ตนเป็นเพียงอดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซีศรีนครินทร์ เพราะออกจากงานมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว เนื่องจากไม่ผ่านการทดลองงาน

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชี เบื้องต้นพบว่าเงินจำนวน 1,663 ล้านบาท มีการยักย้ายถ่ายโอนไปบัญชีบุคคลที่ 3 หลายบัญชี เชื่อว่าน่าจะมีการผู้รู้เห็นหรือผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 2-3 ราย รวมทั้งตัวของนายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป