ปลัด ยธ.เซ็นเด้งรอง อธ.ดีเอสไอ เซ่นน้ำมันเถื่อนล็อตแรก

ปลัดยุติธรรมสั่งย้ายรองอธิบดีดีเอสไอไปนั่งรอง อธ.กรมคุมประพฤติ ระบุเพื่อความเหมาะสมต่อทางราชการ โดยรอง อธ.เพิ่มพูน ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลศูนย์ปฏิบัติการภาคต่างๆ ของดีเอสไอในสมัย “ธาริต” และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเรียกรับผลประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องน้ำมันเถื่อน

จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าข้าราชการในกรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวน 3 รายมีส่วนเกี่ยวข้องในการรับส่วยน้ำมันเถื่อนนั้น

วันนี้ (2 ธ.ค.) แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เซ็นคำสั่งย้ายนายเพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองอธิบดีกรมคุมประพฤติ โดยคำสั่งระบุเหตุผลเพียงเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ต่อทางราชการเท่านั้น และคำสั่งดังกล่าวส่งผลให้ตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอว่างลงพร้อมกัน 2 ตำแหน่ง คาดว่าในเร็วๆ นี้จะเปิดรับสมัครเพื่อให้ข้าราชการระดับ 9 จากกรมต่างๆ รวมถึงดีเอสไอได้ลงสมัครแสดงวิสัยทัศน์และผลงาน

สำหรับกระแสข่าวในการโยกย้ายนายเพิ่มพูนให้พ้นจากตำแหน่งเดิมนั้น มีมาเป็นระยะตั้งแต่ช่วงที่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ

ทั้งนี้ ขณะที่นายเพิ่มพูนดำรงตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอนั้นได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลศูนย์ปฏิบัติการภาคต่างๆ ของดีเอสไอ กระทั่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการแอบอ้างดีเอสไอไปเรียกรับผลประโยชน์ จนต้องปรับย้ายเจ้าหน้าที่ในศูนย์ภาคต่างๆ หลายครั้งจนเกิดปัญหาคนร้ายนำน้ำมันเบรกไปราดใส่รถยนต์ส่วนตัวของ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รอง ผบ.สำนักคดีพิเศษศูนย์ภาค ซึ่งจอดอยู่ในอาคารจอดรถยนต์ (โซนดีเอสไอ) ภายในศูนย์ราชการอาคารบี

ล่าสุดเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีส่วยน้ำมันเถื่อนของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี แม้ว่าผู้มีรายชื่อในฐานข้อมูลโทรศัพท์ของเสี่ยโจ้ จะเป็นพนักงานสอบสวนในศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดีเอสไอ ซึ่งขณะนั้นขึ้นตรงต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ แต่มีผู้ถูกตั้งกรรมการสอบสวน 1 ราย เคยเป็นเจ้าหน้าที่คดีพิเศษสังกัดศูนย์ปฏิบัติการภาคใต้

สำหรับรายชื่อบัญชีส่วยของเสี่ยโจ้ ที่ระบุว่ามีการจ่ายเงิน 1.6 ล้านบาท ให้กับเล็กดีเอสไอเมื่อปี 2555 นั้นยังไม่มีการตั้งกรรมการขึ้นสอบข้อเท็จจริง โดยชี้แจงเบื้องต้นว่าผู้ที่ไปปฏิบัติงานในศูนย์ภาคใต้ของดีเอสไอไม่มีคนชื่อเล็ก จึงคาดว่าเป็นการแอบอ้างชื่อไปเก็บส่วย

นอกจากนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่าชื่อย่อ “ล.” นั้น เป็นตำรวจที่โอนย้ายมาสังกัดดีเอสไอ และเป็นที่รู้จักกันในวงการตำรวจว่าใช้ชื่อย่อดังกล่าว

ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรมว่ามีการโยกย้ายรองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งการโยกย้ายเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ภายหลังกลับจากการประชุมร่วมกับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซียจะตรวจสอบอีกครั้งว่าโยกย้ายดังกล่าวมีเหตุผลอย่างไร