xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งจับแก๊งแชร์ลูกโซ่ เปิดกิจการซ่อมอะไหล่บังหน้าตุ๋นเงิน 100 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 น.ส.วิริยา สุขสุวรรณ ผู้เสียหาย
ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจแชร์ลูกโซ่กว่า 30 คน แจ้งจับญาติแก๊งแชร์ลูกโซ่ เปิดบัญชีโอนเงิน อ้างนำไปลงทุนให้กับ หจก.พรนภา เซอร์วิส 2556 ซ่อมอะไหล่เครื่องจักรโรงงาน แต่เมื่อลงทุนไปแล้วกลับไม่ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญา มูลความเสียหาย 100 ล้าน


วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.วิริยา สุขสุวรรณ อายุ 28 ปี พร้อมด้วย นางบุญตา สุขสุวรรณ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/48 หมู่ 2 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมทนายความ และกลุ่มผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจแชร์ลูกโซ่กว่า 30 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วุฒิชัย สิงห์คง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายตันติกร หรือ โอม เกตกินทะ และ นางพรนภา หรือ ตาล สุขสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ หจก.พรนภา เซอร์วิส 2556 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยนำเอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารและเอกสารที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี

น.ส.วิริยา กล่าวว่า สำหรับ นางพรนภา มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของตน ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้รับการชักชวนจาก นางพรนภา และ นายตันติกร ให้ร่วมลงทุนในธุรกิจซ่อมอะไหล่เครื่องจักรโรงงานของ หจก.ดังกล่าว โดยนางพรนภา อ้างว่า จะได้รับผลตอบแทนตามจำนวนเงินที่ลงทุน ครั้งแรกตนก็ยังไม่มั่นใจ แต่เห็นว่าเป็นญาติกัน จึงทดลองร่วมลงทุนเป็นเงิน 30,000 บาท ซึ่งเพียง 7 วัน หลังจากนั้น ก็ได้รับการโอนเงินคืนกลับมา 37,000 บาท ต่อมาก็ลงทุนเพิ่มไปอีก โดยรวบรวมเงินโอนไป 440,000 บาท ได้รับเงินคืน 620,000 บาท

น.ส.วิริยา กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นว่า มีผลกำไรดี ตนจึงชักชวนคนรู้จักให้หาเงินมาร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย ที่ผ่านมา มีการโอนเงินเพื่อลงทุนธุรกิจดังกล่าวรวมกว่า 20 ล้านบาท แต่หลังจากนั้น ก็เริ่มไม่ได้รับเงินโอนกลับคืนมาอีก จึงพยายามทวงถาม แต่ก็ไม่สามารถติดต่อนางพรนภา ได้ อย่างไรก็ตามมีผู้เสียหายบางส่วนที่ตนได้ชักชวนให้ลงทุน ได้โอนเงินมายังบัญชีธนาคารของตน ก่อนที่ตนจะโอนไปให้กับนางพรนภา ทำให้ผู้เสียหายที่ไม่ได้รับเงินตอบแทน ก็ทวงถามมาที่ตนด้วย ภายหลังเกิดปัญหาขึ้นตนจึงปรึกษาทนายความ เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งสอง ที่ สภ.เมืองระยอง แต่เกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า จึงพากันเข้าแจ้งความที่ บก.ป. เพื่อให้ร่วมสืบสวนดำเนินคดีอีกทางหนึ่ง

ต่อมาได้มีกลุ่มผู้เสียหายอีกกว่า 20 คน นำโดย นายอารีฟ อาหามะ อายุ 27 ปี พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย เดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.โดยประสงค์จะดำเนินคดีกับ น.ส.วิริยา สุขสุวรรณ เนื่องจากทั้งหมดได้โอนเงินลงทุนทำธุรกิจดังกล่าวไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.วิริยา แม้ทั้งสองฝ่ายจะพยายามพูดคุยและชี้แจงว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของ นางพรนภา กับ นายตันติกร ที่ได้รับการโอนเงินไปทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทางทนายความของ น.ส.วิริยา จึงแนะนำว่ากรณีนี้ควรจะให้พนักงานสอบสวนได้ใช้ดุลพินิจในการพิจารณาดำเนินการ เพราะนอกจากกลุ่มของนายอารีฟ ก็ยังมีผู้เสียหายในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้นกว่า 100 ล้านบาท

ด้าน พ.ต.ท.วุฒิชัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ ก่อนจะตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป


กลุ่มผู้เสียหาย

กำลังโหลดความคิดเห็น