รวบหนุ่มใหญ่มะกันแฝงตัวในคราบครูสอนภาษา ลงมือข่มขืนศิษย์หลายท้องที่

ตร.สอบสวนกลาง รวบหนุ่มอเมริกันหนีคดีข่มขืนที่บ้านเกิดมากบดานเป็นครูสอนภาษาในไทย ตามคำขอของทางการสหรัฐฯ แต่ยังมาก่อเหตุซ้ำมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อมากมาย เผยเป็นคนสองบุคลิกชอบทุบตีทำร้ายเหยื่อขณะมีเซ็กซ์



วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสานกลาง (รรท.ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. แถลงผลการจับกุม นายโทมัส แอนดรู อีริกสัน หริอแอนดรู แม็กคลีน หรือแบร์รี สจ๊วต อายุ 47 ปี สัญชาติอเมริกัน พร้อมของกลางหนังสือเดินทางประเทศอังกฤษระบุชื่อ แบรร์รี สจ๊วต วูฟเฟนเดน หนังสือเดินทางสหรัฐอเมริกา เลขที่ 710554973 ระบุชื่อแอนดรู กิลลิส แม็กคลีน โน้ตบุ๊กยี่ห้อเอเวอร์ 1 เครื่อง สมุดเงินฝากออมทรัพย์ และบัตรเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย โดยจับกุมตัวได้บริเวณหน้าหมู่บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 113 หมู่ 8 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางการสหรัฐอเมริกาได้ประสานมายัง กก.6 บก.ป.ขอความร่วมมือในการสืบสวนติดตามนายโทมัสซึ่งเป็นบุคคลต้องห้ามมีหมายจับของเดนตัน เคาน์ตี รัฐเทกซัส ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราและทำร้ายร่างกาย และได้หนีมากบดานอยู่ในประเทศไทย โดยทางการสหรัฐอเมริกาได้เพิกถอนหนังสือเดินทางของนายโทมัสแล้ว จากการตรวจสอบทราบว่า นายโทมัสยังมีหมายจับของศาลอาญา ที่ 183/2554 ลงวันที่ 2 ก.พ. 2554 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายและทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส เหตุเกิดในท้องที่ สน.หัวหมาก โดยผู้เสียหายเป็นพนักงานร้านจิวเวลรีแห่งหนึ่งย่านบางรัก อยู่ระหว่างหลบหนีโดยใช้หนังสือเดินทางปลอมนำไปประกอบอาชีพครูสอนภาษาอังกฤษ โดยได้ไปเป็นครูสอนภาษาในโรงเรียนมัธยมชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นย้ายมาอยู่ย่านรังสิต เป็นครูสอนภาษาโรงเรียนมัธยมชื่อดังในย่านนั้น ก่อนที่จะย้ายมาอาศัยอยู่ย่านประเวศ เป็นครูสอนภาษาโรงเรียนเอกชน โดยจะไปสอนโรงเรียนเหล่านี้ช่วงสั้นๆ และทำงานให้แก่สื่อมวลชนแห่งหนึ่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ล่าสุดได้ไปเปิดสถาบันสอนภาษา EDD ตั้งอยู่หลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเฝ้าติดตามผู้ต้องหาจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่ามีหญิงไทยหลายรายตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้มีทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนชื่อดัง รวมทั้งพนักงานบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียงหลายแห่งที่ต้องการเรียนภาษาเพื่อความก้าวหน้าในการทำงาน ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะนี้จะไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากรู้สึกอับอายและเกรงว่าจะกระทบต่อหน้าที่การงาน ทำให้ยากต่อการจับกุม จากการสอบถามผู้เสียหายหายคนทราบผู้ต้องหาเป็นบุคคลสองบุคลิก หรือไบโพลาร์ มักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และใช้ความรุนแรงทุบตีทำร้ายเหยื่อขณะมีเพศสัมพันธ์ด้วย