ผบ.ตร.เผยมาตรการดูแลกลุ่มต้านรัฐประหาร เน้นพูดคุยปรับทัศนคติ แย้มหากไม่หยุดอาจต้องดำเนินคดี ยันไม่อยากเห็นคนไทยทะเลาะกันต่อไป ประชาชนก็มีความศรัทธาในรัฐบาล อย่าให้ความเห็นต่างคนส่วนน้อยมาทำลายความศรัทธาของคนส่วนใหญ่
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการดูแลกลุ่มบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารในช่วงนี้ว่า ในส่วนของตำรวจคงใช้นโยบายเดิมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มอบไว้ โดยให้ตำรวจและฝ่ายทหารร่วมกันดูแลไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง หลีกเลี่ยงการใช้กำลัง เน้นการทำความเข้าใจ หากพบก็จะมีการเชิญตัวมาทำความเข้าใจ ปรับทัศนคติ ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็ย้ำเสมอว่าไม่ถือโทษ และพร้อมทำความเข้าใจ จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนรวมทั้งนิสิตนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว อยากให้คิดไตร่ตรองให้ดี ทำอะไรก็อยากให้คิดให้ดีเสียก่อน ถ้าไปทำผิดกฎหมายถูกดำเนินคดี แล้วมีประวัติติดตัวอาจจะต้องเสียใจภายหลัง แต่คนที่จะต้องเสียใจมากกว่าคือพ่อแม่ อย่างไรก็ตามหากกรณีแบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ หรือมากขึ้น ตำรวจอาจจำเป็นต้องดำเนินคดี แต่ตอนนี้เราใช้วิธีการพูดคุยกันก่อน เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกันน่าจะพูดคุยกันได้
“ไม่อยากให้ทำอะไรด้วยความคึกคะนอง สนุกสนาน หรือเพื่อนฝูงพาไป เพราะขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ต่างชาติให้ความเชื่อถือ ประชาชนก็มีความศรัทธาในรัฐบาล ผมอยากให้เประเทศชาติอยู่ในภาวะแบบนี้ ถ้ามีความวุ่นวายเกิดขึ้นนักลงทุนไม่มาลงทุน นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยว เศรษฐกิจทรุด ตอนนี้ถ้าถามคนที่ประกอบธุรกิจเขาบอกว่าธุรกิจกำลังไปได้ดี เศรษฐกิจกำลังเริ่มดีขึ้น ผมไม่อยากให้กลับไปสู่แบบเดิม ผมเชื่อว่าประชาชนก็เฝ้าดูอยู่ ไม่เช่นนั้นผลโพลที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาลไม่มากขนาดนี้ เพราะเขามองว่าหากประเทศเราเป็นแบบนี้เราสามารถเดินหน้าไปได้ นายกฯ เองก็เดินทางไปต่างประเทศไปทำความเข้าใจกับชาวต่างชาติว่าเพราะเหตุใดต้องมี คสช. เพราะเราปล่อยให้คนไทยทะเลาะกันต่อไปไม่ได้ อย่างที่เราเห็นมีการชุมนุมของฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มีการซ่องสุม มีการเตรียมอาวุธทำร้ายประหัตประหารกัน ท่านรอวันนั้นที่คนไทยฆ่ากันไม่ได้ ผมก็ไม่อยากให้มีวันนั้น คิดว่าคนไทยคงเข้าใจผมคิดว่าคนไทย 76 ล้านคน มีคนมาแสดงออกไม่กี่สิบคนมันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่คิดกันให้ดีนะว่าสิ่งที่ท่านทำถ้าเกิดมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง มันจะเป็นผลเสียต่อตัวท่านเอง ครอบครัวท่าน พ่อแม่พี่น้องท่านจะต้องเสียใจ” ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากข้อมูลด้านการข่าวแนวโน้มการเคลื่อนไหวจะเพิ่มมากขึ้นหรือขยายวงกว้างออกไปหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ด้านการข่าวเราเฝ้าติดติดตาม หาข่าวตลอดเวลา มีมาตรการที่จะดูแลตรงนี้อยู่แล้ว ตำรวจทหารก็มีความร่วมมือในการดูแลเป็นอย่างดี มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน อยากฝากว่าถ้าคนส่วนน้อยคิดถึงคนส่วนใหญ่ คิดถึงประเทศชาติ คิดถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ลองประเมินกันว่าคนไทยอยากให้เป็นแบบไหน เมื่อถามว่ามีการตรวจสอบหรือไม่ว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ตรงนี้เราติดตามอยู่ แต่เราก็ไม่มองอะไรไปในแง่ร้ายทุกเรื่อง แต่เราก็ไม่ประมาท มีการตรวจสอบหาข้อมูลอยู่ตลอด