ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ป้องกันจังหวัดขอนแก่นโร่ทำรายงานชี้แจงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กรณี 5 นักศึกษากลุ่มดาวดินลูบคมประท้วงต้านรัฐประหารถึงเวทีแก้ภัยแล้ง เผยข้อผิดพลาดการคัดกรองสื่อหละหลวมเป็นช่องว่างให้กลุ่มป่วนแฝงตัว พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
วันนี้ (21 พ.ย.) เวลาประมาณ 15.00 น. นายกำธร วิเชฏฐพงศ์ ป้องกันจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงความคืบหน้าประเด็น 5 นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น ชู 3 นิ้วต้านรัฐประหารว่า ตนได้ทำรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเพื่อรับทราบ และรายงานผลสรุปผลการเดินทางมาปฏิบัติราชการของ พล.อ.ประยุกธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา
ในฐานะฝ่ายปกครองการรักษาความปลอดภัยร่วมกับฝ่ายทหารและตำรวจ โดยรับผิดชอบเคลียร์เส้นทางตลอดการเดินทางของนายกรัฐมนตรี ทำรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งใจความเอกสารระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 57 เวลา 04.00 น. ตรวจพบแผ่นปลิวขนาด A4 มีข้อความว่า “อีสาน ไม่ต้อนรับเผด็จการ” หลายจุด ทั้งที่บริเวณ ถ.ศูนย์ราชการ, ถ.ศรีจันทร์ และรอบศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดขอนแก่นได้ตรวจสอบและเก็บใบปลิวส่งต่อให้ตำรวจตรวจสอบลายนิ้วมือ
พร้อมกับชี้แจงในรายงานว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีมีกลุ่มนักศึกษา (กลุ่มดาวดิน) ได้แฝงตัวเข้ามาในบริเวณงาน พร้อมกับแสดงท่าทีต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ ชู 3 นิ้วพร้อมสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนข้อความบนเสื้อ ไม่ เอา รัฐ ประ หาร จึงควบคุมตัวไว้ ขณะนี้มี นศ.เพียง 2 คนเท่านั้นที่เซ็นยินยอมไม่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร หากทำอีกจะยินยอมให้ดำเนินคดีความ
นายกำธร กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในครั้งนี้ จากการวิเคราะห์จากนักวางแผนยุทธศาสตร์ ส่วนหนึ่งเกิดจากการทำงานไม่เป็นระบบ คือไม่กำหนดบุคคลรับผิดชอบในแต่ละด้านให้ชัดเจน และไม่คัดกรองสื่อมวลชนที่มีจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสให้กลุ่ม 5 นศ.ดาวดินแฝงตัวเข้ามาได้
ปัญหาที่เกิดขึ้น เบื้องต้นตนไม่ถูกสอบตามที่มีข่าวลือ มีเพียงทำรายงานถึงผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อรับทราบข้อมูลและมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนส่งให้จังหวัดทราบเท่านั้น ล่าสุดเตรียมจัดประชุมร่วมกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยทั้ง 3 ฝ่าย คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมต่อไป