xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ส.สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา บช.ส.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบช.ส.นำคณะข้าราชการตำรวจในสังกัดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจสันติบาลครบ 82 ปี ย้ำนโยบาย 11 ข้อ

วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่สำนักงานตำรวจสันติบาล (บช.ส.) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส. นำคณะนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจสันติบาลครบ 82 ปี ทั้งนี้ ในเวลา 10.00 น.จะมีพิธีสงฆ์ ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 24 บก.อก.บช.ส. ขณะที่เวลา 11.00 น.งานเลี้ยงรับรอง ณ ห้องสารสิน โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เป็นประธาน มีอดีตผู้บังคับบัญชา คณะทูตและผู้แทนเข้าร่วมงาน

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในยุคที่ตนเป็นผู้บังคับชาสูงสุดของหน่วยนี้นั้น มีนโยบายที่ต้องการให้ข้าราชการในสังกัด บช.ส.ทุกนายนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมมี 11 ข้อ มีดังนี้ 1. ใช้ความสามารถที่เป็นเลิศด้านข่าวกรองของหน่วย ถวายความปลอดภัย ปกป้อง และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างเต็มกำลังความสามารถ 2. นำนโยบายการบริหารราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้ง 8 ข้อ มาเป็นกรอบในการกำหนดยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติราชการของทุกหน่วยงานในสังกัด 3. ให้ความสำคัญกับงานการข่าวเกี่ยวกับความมั่นคงในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การข่าวความมั่นคงของสถาบัน การข่าวความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ สังคม การข่าวความมั่นคงด้านการเมือง การข่าวความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ตามแนวชายแดน การข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้ายสากล 4. ข้าราชการตำรวจในสังกัด กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จะต้องมีสวัสดิการ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ในงานที่รับผิดชอบได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความรักและภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของตน

5. พัฒนาปรับปรุงระบบงานด้านการข่าวในทุกมิติ เพื่อให้มีศักยภาพที่ทัดเทียมกับหน่วยข่าวของส่วนราชการอื่นๆ สามารถสนับสนุนภารกิจที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษจากผู้บังคับบัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6. ยกระดับการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่ในความรับผิดชอบ ให้มีมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ 7. จัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ พิเศษ ที่มีคุณลักษณะเฉพาะสำหรับการปฏิบัติงานด้านการข่าวที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 8. ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานของตำรวจสันติบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถปฏิบัติงานในเชิงรุกได้อย่างถูกต้องตามหลักกฎหมาย

9. แสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานด้านข่าวกรองทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 10. พัฒนาศูนย์พัฒนาการข่าวของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ให้มีศักยภาพยิ่งขึ้นสามารถสนับสนุนภารกิจการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานให้กับบุคคลากรของหน่วยในทุกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ 11. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องดูแลทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดและติดตามเอาใจใส่มิให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุจริตประพฤติมิชอบหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ส่วนวิสัยทัศน์ของตำรวจสันติบาล คือ “เป็นเลิศด้านข่าวกรอง ปกป้องสถาบัน”

สำหรับประวัติกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2473 ก่อนที่กองตำรวจสันติบาลจะได้กำเนิดขึ้นในกรมตำรวจนั้น ได้มีพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกาศว่า “โดยมีพระราชประสงค์จะให้ราชการในกรมตำรวจภูธรดำเนินเจริญยิ่งขึ้น เป็นการสมควรที่จะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ซึ่งรอบรู้ในวิชาการบางอย่างเป็นพิเศษขึ้นไว้ เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนและปราบปรามผู้กระทำผิด” จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมขึ้นกรมหนึ่งในกรมตำรวจภูธรชื่อ “กรมตำรวจภูบาล”

ต่อมาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2475 ได้มีพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อกรมตำรวจภูธรเป็น “กรมตำรวจ”ให้เป็นกรมชั้นอธิบดี และมีรองอธิบดีเป็นผู้ช่วย

แบ่งกิจการออกเป็น 4 ส่วน คือ หน่วยบริหารงานส่วนกลาง และสำนักบริหารของอธิบดีกรมตำรวจ ตำรวจนครบาล ตำรวจภูธร และตำรวจสันติบาล มีหน้าที่เป็นกำลังช่วยเหลือตำรวจนครบาลและตำรวจภูธร จึงถือได้ว่ากองตำรวจสันติบาลได้เกิดมีขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

กองตำรวจสันติบาลได้รับการยกฐานะเป็นกองบัญชาการเมื่อปีพุทธศักราช 2535 ได้มีการพัฒนาและขยายองค์กรมาโดยต่อเนื่อง จนกระทั่งปีพุทธศักราช 2552 ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบ่งโครงสร้าง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล เป็น 5 กองบังคับการ 1 ศูนย์ และ 1 กลุ่มงาน ประกอบด้วย กองบังคับการอำนวยการ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 2 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 4 ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว และกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น