โจรอุ้มนักธุรกิจจีนเรียกค่าไถ่ 100 ล้าน ยอมปล่อยตัวผู้เสียหายที่ชายแดนกัมพูชา ตำรวจเตรียมรับตัวมาสอบถามรายละเอียดการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ พร้อมเหตุผลในการปล่อยตัว
เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (14 พ.ย.) ที่สน.พญาไท พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ รอง ผบก.น.1 รักษาราชการแทน ผกก.สน.พญาไท พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.บช.น และตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมประชุมเพื่อหาเบาะแส นายเฉิน จี้ นักธุรกิจสองสัญชาติกัมพูชา-จีน ที่ถูกคนร้ายลักพาตัวไป โดยที่ประชุมได้นำสำนวนการสอบสวน และภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบเพื่อหาแนวทางการติดตามตัว นายเฉิน จี้ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยมีกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจชาวจีนเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีด้วย
พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความจากเพื่อนของ นายเฉิน จี้ แล้วก็ได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำโดย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บชน.มาประชุมสืบสวนคดี โดยแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายเฉิน ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในประเทศกัมพูชา และเดินทางเข้ามาในประเทศเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน ของวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศกัมพูชา ในฐานะนักท่องเที่ยว ซึ่ง นายเฉิน จี้ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยบ่อยครั้ง โดยจะพักอยู่ในประเทศไทยครั้งละประมาณ 10 วัน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง ส่วนเรื่องของปมขัดแย้งนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ กรณีที่การรายงานข่าวว่า มีการเรียกค่าไถ่นั้นตนยังไม่ขอให้รายละเอียด เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
แหล่งข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบๆ บริเวณที่เกิดเหตุจับภาพได้ชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหาย เกรงว่าจะได้รับอันตราย โดยตัวของ นายเฉิน จี้ นั้นกำลังเป็นนักธุรกิจดาวรุ่ง มีทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตที่กำลังไปได้สวย ซึ่งจากแนวทางการสอบสวนมุ่งประเด็นอาจโดนกลุ่มคนที่ขัดแย้งทางธุรกิจ หรือกลุ่มคนรู้จักจับตัวไป ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ นายเฉิน จี้ ได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ขณะเดินทางออกจากโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ ซอยนราธิวาส 24 โดยเดินทางด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอินโนวา กระทั่งเลี้ยวเข้าซอยราชปรารภ 3 กล้องสามารถจับภาพรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ และชายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีฟ้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ ตามประกบรถยนต์ผู้เสียหาย จากนั้นเมื่อเวลา 12.40 น. นายเฉิน จี้ เดินทางมาถึงหน้าตึกใบหยก2 ได้มีชายฉกรรจ์ 2-3 คน เดินลงมาจากรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ เข้าควบคุมตัวนายเฉิน จี้ พร้อมทั้งระบุว่า นายเฉิน จี้ มีหมายจับจากประเทศจีน ก่อนพาตัวขึ้นรถไป ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวสวมทะเบียนปลอม และมีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่า ชายฉกรรจ์ 2 คนที่พาตัวนายเฉิน จี้ไปนั้น พูดภาษาไทยชัดเจน และกลุ่มคนดังกล่าวเคยได้ให้นายเฉิน ติดต่อกลับมาจริงเพื่อเรียกเงินค่าไถ่กว่า 20 ล้านหยวน หรือ 100 ล้านบาท แต่หลังจากนั้น ตลอดคืนที่ผ่านมากลุ่มคนดังกล่าวยังไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย ส่วนพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกเข้ามาสอบปากคำเพื่อเป็นแนวทางในการสอบสวนต่อไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจาก กทม.เพื่อตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี
ต่อมา เมื่อเวลา 22.30 น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่พบตัวนายเฉิน จี้ นักธุรกิจคนดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวนายเฉิน จี้ มาจากประเทศกัมพูชา เบื้องต้นทราบว่า หลังถูกอุ้มตัวจากบริเวณหน้าตึกใบหยก ก็ถูกนำตัวไปที่ประเทศกัมพูชา และได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวมาสอบปากคำในวันที่ 15 พ.ย.นี้ เพื่อซักถามรายละเอียดที่ถูกคนร้ายจับตัวไป รวมถึงประเด็นการเรียกค่าไถ่ และเหตุผลในการปล่อยตัวกลับมา
ต่อมา พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากทางญาติของ นาย เฉิน จี้ นักธุรกิจที่ถูกจับตัวไป ว่า ขณะนี้ นาย เฉิน จี้ ได้รับการปล่อยตัวแล้วตอนช่วงค่ำ (ของวันที่ 14 พ.ย.) โดยนายเฉินปลอดภัยดี ภายหลังได้รับการปล่อยตัวนายเฉิน จี้ ยังไม่สามารถที่จะเดินทางกลับเมืองไทยได้ เนื่องจากหลังจากที่โดนพาตัวไปจากซ.ราชปรารภ 3 นั้น กลุ่มคนร้ายได้ขับมุ่งหน้าไปทาง จ.สระแก้ว เข้าชายแดนไทยกัมพูชา จากนั้น คนร้ายได้พาตัวนาย เฉิน จี้ ออกจากประเทศไทยโดยไม่ได้ออกทางช่องทางปกติ หรือช่องทางตรวจคนเข้าเมือง แต่พาออกบริเวณใกล้ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ ช่องทางพิเศษที่ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตแทน
ขณะนี้ นายเฉิน จี้ กำลังดำเนินการเรื่องเอกสารอยู่ที่สถานทูตไทย เพื่อที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้อง เนื่องจากตอนโดนกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มตัวไปนั้น นายเฉิน จี้ ไม่มีเอกสารใดๆติดตัว ทั้งนี้ หลังจากได้รับเอกสารจากสถานทูตไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นาย เฉิน จี้ จะเดินทางกลับเข้าประเทศไทย และจะเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งเรื่องที่โดนกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มตัวไปและได้รับการปล่อยตัวที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในวันจันทร์นี้ (17 พ.ย.)
พล.ต.ต.สมบัติกล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มคนร้ายรายนี้ เบื้องต้น คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 4-5 คน โดยมี 1 คนที่มีการติดต่อกับ นาย เฉิน จี้ และรู้ความเคลื่อนไหวของนายเฉิน จี้ เสมือนเป็นนกต่อและคนชี้เป้ารถของนาย เฉิน จี้ สุดท้าย คือ กลุ่ม ชายฉกรรจ์ที่อุ้มตัวนาย เฉิน จี้ไป เมื่อดูลักษณะก่อเหตุคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะมีการวางแผนงานมาเป็นอย่างดี ส่วนจะเป็นคนมีสีหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวแจ้งว่าไม่ได้มีการส่งตำรวจไทยไปประกบหรือคุ้มกันแต่อย่างใด นายเฉิน จี้อยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มพรรคพวกชาวจีนที่เดินทางไปรับตัวนายเฉินหลังจากโดนปล่อยตัว
