ตำรวจสอบปากคำล่ามสาวของนักธุรกิจจีนที่หายตัวไป ระบุได้รับการติดต่อจากคนร้ายชาวจีนให้นำเงิน 20 ล้านหยวน ไถ่ตัว เกรงจะได้รับอันตราย ด้านโฆษกตร.ยันมีเหตุอุ้มนักธุรกิจจีน พฤติการณ์ในการก่อเหตุคล้ายเจ้าหน้าที่
วานนี้ (13พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่นายเฉิน จี้ นักธุรกิจ 2 สัญชาติ กัมพูชา-จีน ได้หายตัวไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ทำการสอบสวน น.ส.ลี เซี่ย หรือ ลิสา ฟู่ อายุ 26 ปี ชาวจีน เพื่อนของนายเฉิน โดยใช้เวลาสอบสวนกว่า 5 ชม.
น.ส.ลี ให้การว่า ตนได้เข้ามาเมืองไทย โดยเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนตอนปี 2553 แล้วได้รู้จักกับนายเฉิน จี้ ซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศกัมพูชา คนที่หายตัวไป จนกระทั่ง 2555 นายเฉินได้ติดต่อให้ตนเป็นล่ามที่ประเทศไทย เนื่องจากตนพูด อ่าน เขียนภาษาไทยได้ ตนจึงเป็นล่ามให้นายเฉิน ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายเฉินได้ติดต่อตนมาว่า มีชายไทยจับตัวไป ตนจึงติดต่อบรรดาเพื่อนนักธุรกิจชาวจีนที่ประเทศกัมพูชาให้ช่วยกันตามหา จนครบ 24 ชม.ก็ไม่พบตัว ตนจึงเดินทางมาแจ้งความที่สน.พญาไท
น.ส.ลี ให้การต่อไปอีกว่าล่าสุดตนได้รับการติดต่อจากชาวจีนให้นำเงิน จำนวน 20 ล้านหยวน หรือ 100 ล้านบาท เป็นค่าไถ่ตัวนายเฉิน แต่ตนบอกกลับไปว่า มีเงินเพียง 18 ล้านบาท ชาวจีนดังกล่าวได้บอกว่าให้ตนพยายามหาเงินให้ครบ แล้วจะติดต่อกลับมาใหม่ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา ตนเกรงว่านายเฉินจะได้รับอันตราย จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยติดตามหาตัวนายเฉิน
อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวนายเฉิน และจับกุมกลุ่มคนร้ายที่เรียกค่าไถ่ต่อไป
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นมีเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจ อุ้มตัวนายเฉิน จี้ นักธุรกิจสองสัญชาติกัมพูชา-จีน ที่ห้างสรรพสินค้าย่านประตูน้ำ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา จริง โดยพฤติกรรมการก่อเหตุคล้ายกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งลงมือมากกว่า 2 คน โดยกล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าย่านประตูน้ำ สามารถจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ ซึ่งตำรวจสืบสวนนครบาล อยู่ระหว่างเร่งแกะรอยจากภาพวงจรปิด และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสาวไปยังผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจาก เป็นเรื่องที่อ่อนไหว และเกรงว่า จะเป็นอันตรายกับนายเฉิน รวมทั้ง ยังไม่ทราบสาเหตุในการอุ้มตัวครั้งนี้
สำหรับ นายเฉิน เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน เพื่อติดต่อธุรกิจ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานว่า ถูกสะกดตามมาตั้งแต่ประเทศจีนหรือไม่