“เฉลิมเกียรติ” สั่งขยายผลล่านายทุนว่าจ้างลักลอบตัดไม้พะยูง

รรท.รอง ผบ.ตร.นำคณะสื่อมวลชนดูของกลางไม้พะยูง มูลค่ากว่า 2 ล้าน ที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตรวจยึดได้ ระบุ ตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง จึงมีการลักลอบตัดเพราะค่าตอบแทนสูง สั่งขยายผลจับกุมนานทุนว่าจ้างตัดไม้

วันนี้ (10 พ.ย.) ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.รองผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.) นำคณะสื่อมวลชนไปดูผลการจับกุมไม้พะยูงที่ ตำรวจ สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ตรวจยึดมาได้ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 จำนวน 23 ท่อน มูลค่า 2 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 13 ราย โดยมี นายตระกูล อาจอารัญ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นำดูไม้พะยูงดังกล่าว

โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันของตำรวจ และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสืบสวนสอบสวนในป่าจนทราบว่า มีการลักลอบตัด จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจนยึดของกลางไม้พะยูง พร้อมเลื่อยยนต์จำนวนหนึ่ง โดยของกลางที่ตรวจยึดได้อยู่ในลักษณะที่สามารถส่งออกขายได้ และมีสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ และตัวเลขเพื่อแยกประเภท และระบุแหล่งที่มา ส่วนเส้นทางที่มีการลักลอบลำเลียงส่งออกไปขาย ส่วนใหญ่ใช้ 2 เส้นทาง คือ ผ่านทางแม่น้ำโขง เข้าทาง จ.มุกดาหาร ข้ามไปฝั่งประเทศลาว และเส้นทางเหนือที่ อ.ท่าลี่ จ.เลย ขึ้นเหนือไปทาง จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันพบว่ายังมีความต้องการไม้พะยูงจำนวนมาก และแม้จะมีการจับกุมแต่ก็ยังมีการลักลอบตัดอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ 12 จังหวัดเฝ้าระวัง เนื่องจากราคาค่าตอบแทนค่อนข้างสูง

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและประสานฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับนายทุน และแหล่งเงินทุนที่ว่าจ้างเพื่อขยายจับกุม ซึ่งที่ผ่านมา ได้นำกฎหมายฟอกเงินดำเนินการยึดทรัพย์สินของนายทุนรายใหญ่ได้ที่ จ.อุบลราชธานี จำนวนกว่าพันล้านบาท ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทุกด่านเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด