ตร. ทองหล่อ ตามจับมือคัดเตอร์ปาดคออดีตนายจ้างได้แล้ว ขณะหลบหนีไปกบดานถึงมุกดาหาร พร้อมตามยึดรถเบนซ์คันที่ถูกขโมยไปมาตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงเอารถไปใช้ตั้งแต่เดือน เม.ย. แต่ยังไม่ได้รับรถคืนเจ้าของแจ้งความเพิ่มอีกราย เตรียมนำตัวทำแผนบ่ายนี้
จากกรณีที่ นายธีรพัฒน์ หรือ ต้น แก้วไชอินทร์ อายุ 38 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ปาดคอ นางรัตนา เมธีพุทธิ อายุ 54 ปี เจ้าของ บริษัท อะคูเท็คท์ จำกัด ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า ซึ่งเป็นอดีตนายจ้างของตัวเอง แล้วชิงเอารถเบนซ์ รุ่นเอส 300 สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1กน 8855 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายข้าง แหวนเพชร 3 กะรัต 1 วง โทรศัพท์ไอโฟน และเงินสดจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดภายในลานจอดรถ ชั้นพี 4 ของอาคารโมเดิร์นทาวน์ ถนนสุขุมวิท 63 ซอยเอกมัย 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายธีรพัฒน์ ได้ในเวลาที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.มุกดาหาร นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึดรถเบนซ์ของกลางได้ที่ลานจอดรถข้างอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใกล้วัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่ สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เดินทางมาตรวจรถสอบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นเอส 3000 ของ นางรัตนา ที่ถูกชิงไป เพื่อหาหลักฐานรอยนิ้วมือคนร้าย และคราบเลือด ก่อนที่จะนำผลที่ได้ไปมอบให้พนักงานสอบสวนประกอบสำเนาคดี จากนั้น ร.ต.ท.สิริศักดิ์ อินทร์สิทธิ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เบิกตัว นายธีรพัฒน์ ผู้ต้องหา ออกจากห้องขัง เพื่อนำตัวไปค้นหาของกลางเพิ่มเติมตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ตั้งแต่จุดเกิดเหตุ จนถึงจุดจอดรถที่ จ.นนทบุรี
ขณะที่ นางมะปรางค์ แตงสาขา อายุ 34 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สิริศักดิ์ พร้อมนำหลักฐานเอกสารแจ้งความ และเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน ถช 3171 กรุงเทพมหานคร หลังจากถูก นายธีรพัฒน์ ผู้ต้องหาในคดีปาดคอและชิงทรัพย์ ยืมรถไป และไม่นำมาคืนตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
นางมะปรางค์ กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.ดร.ประสงค์ ศิริโภคา รองผกก.ป.สภ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านติดกับตน ภายในหมู่บ้านพรธิศาล ย่านคลอง 7 เพื่อขอยืมรถยนต์ของตน โดยตกลงกันว่าจะให้มาเอารถไปเป็นเวลา 3 วัน ทั้งนี้ ตนกับนายธีรพัฒน์ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ด้วยความที่ตนรู้จักสนิทกับ พ.ต.ท.ประสงค์ จึงไว้ใจให้ยืมรถไป ซึ่งนายธีรพัฒน์เป็นคนมาเอารถไป ต่อมาเมื่อครบกำหนดยืมแล้ว นายธีรพัฒน์ ก็ไม่ได้นำรถมาคืน จึงติดต่อไปยัง พ.ต.ท.ประสงค์ ก็ได้รับการตอบกลับมาว่าให้ไปติดต่อนายธีพัฒน์เอง เนื่องจาก นายธีรพัฒน์ เป็นคนยืม ตนจึงติดต่อไปหานายธีรพัฒน์ แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงในการคืนรถ ทำให้รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองห้า ไว้เมื่อวันที่ 6 พ.ค. เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามรถคืนให้ แต่จนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับรถคืนแต่อย่างใด จนกระทั่งมาทราบข่าวว่า นายธีรพัฒน์ ถูกจับจึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เนื่องจากตนอยากได้รถคืน เพราะรถคันดังกล่าวเป็นสมบัติที่สามีตนที่เป็นอดีตทหารอากาศทิ้งไว้ให้ ก่อนเสียชีวิตไป เพื่อที่จะเอาไว้ทำมาหากิน
ด้าน ร.ต.ท.สิริศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสารแล้ว พบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ของ สภ.คลองห้า จึงแนะนำให้ทางผู้เสียหายไปแจ้งกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.คลองห้า เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีมาดำเนินตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปแถลงข่าวที่ บช.น. เวลาประมาณ 15.00 น. จากนั้นจะนำตัวทำแผนในที่เกิดเหตุต่อไป
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผบช.น. พ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป รรท.ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สน.ทองหล่อ แถลงผลการจับกุมนายธีรพัฒน์ แก้วไชอินทร์ หรือ ต้น อายุ 38 ปี โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าห้องพักเลขที่1 เก้านทีรีสอร์ท ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พ.ต.อ.ชูตระกูล กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่าคนร้ายชื่อนายธีรพัฒน์ แก้วไชอินทร์ หรือ ต้น อดีตพนักงานขับรถ ทางเจ้าหน้าที่สน.ทองหล่อจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่จ.691/2557 ลงวันที่3พ.ย.57 ต่อมาสืบทราบว่านายต้นหนีไปกลบดาลที่จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงตามไปรวบตัวไว้ได้ทัน ขณะที่นายต้นเก็บของเตรียมหนีออกนอกประเทศ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัตินายต้น พบว่าเคยต้องคดียักยอกทรัพย์ ที่สภ.บางกรวย คดีอาวุธปืน สน.หัวหมาก และหมายจับคดียักยอกทรัพย์ที่สภ.คลองห้า และสามารถยึดแหวน และต่างหูของกลางได้ที่แฟนสาวของนายต้น ส่วนรถเบนซ์นายต้นถอดGPS เพื่อป้องกันการติดตาม แล้วนำรถไปจอดทิ้งในหมู่บ้านเรวดี ซอย19 ไกล้กับอบต.คูรัด