xs
xsm
sm
md
lg

ปาดคอนายจ้างสาว “ชิงเบนช์” กลางกรุง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 นายวิราช บุญหล่อปั้น พนักงานบริษัท เบล เซอร์เวย์ จำกัด พยานชี้จุดเกิดเหตุ
อดีตลูกจ้างก่อเหตุใช้มีดปาดคอนายจ้างสาว เจ้าของธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าย่านเอกมัย บริเวณลานจอดรถในอาคารได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงรถเบนซ์ขับรถหนีมุ่งหน้าถนนพระราม 9 พบประวัติแสบเคยก่อคดียิง นศ.รามฯ และยักยอกทรัพย์ เร่งติดตามจับกุมเป็นการด่วน

วันนี้ (3 พ.ย.) ร.ต.ท.สิริศักดิ์ อินทร์สิทธิ์ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งมีชายใช้อาวุธมีดปาดคอผู้หญิงก่อนชิงรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์หลบหนีไป ที่ อาคารโมเดิร์นทาวน์ ซอยเอกมัย 3 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ ผกก.สส.น.5 พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ทหาร ม.พัน.1 รอ. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสำนักงาน สูง 18 ชั้น บริเวณลานจอดรถชั้นพี 4 พบเพียงกองเลือด จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์สอบว่าผู้บาดเจ็บคือ นางรัตนา เมธีพุทธิ อายุ 54 ปี เจ้าของบริษัท อะคูเท็คท์ จำกัด ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า ถูกของมีคมบาดที่บริเวณลำคอ เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บถูกคนร้ายเป็นชาย ทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธคัตเตอร์กรีดที่ลำคอ ก่อนชิงทรัพย์เป็นรถยนตร์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ เอส 300 สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 1 กน 8855 กรุงเทพมหานคร หลบหนีเส้นทางถนนเอกมัยมุ่งหน้าถนนพระราม 9 จึงประสานศูนย์วิทยุผ่านฟ้าทำการสกัดจับรถต้องสงสัยเป็นการด่วน

สอบสวนนายวิราช บุญหล่อปั้น อายุ 46 ปี พนักงานของบริษัท เบล เซอร์เวย์ จำกัด พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่บริเวณ ชั้นพี 4 ในอาคารดังกล่าวได้ยินเสียงคล้ายคนกำลังทะเลาะกันจึงเดินไปตรวจสอบพบคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วมสูงสันทัด สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว นุ่งกางเกงสแลกขายาวสีดำ ใส่ผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้า กำลังใช้ผ้าปิดปากปิดปากผู้เสียหาย ก่อนใช้อาวุธคัตเตอร์กรีดที่ลำคอ ตนจึงตะโกนเพื่อข่มขู่คนร้าย จากนั้นคนร้ายจึงรีบวิ่งขึ้นรถก่อนขับหลบหนีไป จึงรีบพาตัวผู้บาดเจ็บให้ทาง รปภ.ของอาคารทำการช่วยเหลือที่ชั้นจี ของอาคารดังกล่าว

รายงานข่าวฝ่ายสืบสวนแจ้งว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อมสามารถยืนยันและชี้ตัวคนร้าย คือ นายธีรพัฒน์ แก้วไชอินทร์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/131 หมู่ที่ 2 ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ อดีตพนักงานขับรถบริษัทของผู้เสียหาย ทำงานมาหลายปี ก่อนจะขอลาออกไปเมื่อปีก่อนแล้วยังไม่ได้เงินเดือนเดือนสุดท้าย จึงกลับมาก่อเหตุชิงทรัพย์ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องสงสัยเคยก่อคดีเคยก่อเหตุยิงนักศึกษาหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา รวมทั้งติดคดียักยอกทรัพย์อีกด้วย เบื้องต้นทางตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.5 เร่งประชุมแบ่งงานกระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด อีกทั้งเร่งรวบรวมหลักฐานก่อนขอนุมัติหมายจับเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่ สน.ทองหล่อ รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในชั้นที่เกิดเหตุแล้ว โดยกล้องสามารถจับภาพผู้เสียหายเดินผ่านหน้ารถเบนซ์ออกมา มือกุมไว้ที่บริเวณลำคอ แล้ววิ่งลงไปทางบันไดทางลง จากนั้นคนร้ายก็ขับรถของผู้เสียหายหนีไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ภาพกล้องวงจรปิดอีกบริเวณชั้นล่างยังสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายสวมเสื้อยื้อคอปกสีขาว ใส่กางเกงขายาว สวมผ้าปิดปากผิดบังใบหน้า และสะพายกระเป๋าเป้ เดินวนเวียนอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้วคือ นายธีรพัฒน์ แก้วไชอินทร์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/131 หมู่ที่ 2ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ อดีตพนักงานขับรถบริษัทของผู้เสียหาย โดยทางพนักงานสอบสวนกำลังเดินทางไปขอจะอนุมัติขอหมายจับต่อไป ซึ่งบริเวณลานจอดรถมีช่องไว้ให้บริการจอดรถกว่า 15 คันเป็นอย่างน้อย แต่เนื่องด้วยช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลาเช้า จึงยังไม่มีรถมาจอดมาก จึงเป็นช่องทางให้คนร้ายที่ซึ่งเดินมาดูลาดเลาไว้ก่อนแล้ว จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุ แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีเดินมาเห็นคนร้ายจึงรีบขับรถของผู้เสียหายหนีไป

อย่างไรก็ตามอาการของ นางรัตนา ขณะนี้ยังคงนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อดูอาการ โดยเบื้องต้นพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้การกับเจ้าหน้าที่ได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเรียกพยานแวดล้อมรวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัยในตึกดังกล่าว มาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกคร้ง และจะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด








กำลังโหลดความคิดเห็น