xs
xsm
sm
md
lg

ตรวจดีเอ็นเอ “โดโด้” ลูกผู้ใหญ่วอ ปัดเอี่ยวคดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“ผู้ใหญ่วอ” เจ้าของร้านเอซีบาร์ เกาะเต่าพา “โดโด้” ลูกชาย เข้ารับการตรวจดีเอ็นเอ ยืนยันความบริสุทธิ์ หลังถูกโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กโจมตีเกี่ยวข้องกับคดีฆากรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ “สมยศ” เตือนผู้ที่ส่งต่อข้อความมีความผิดเท่ากับผู้โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ
วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายวรพันธุ์ ตู้วิเชียร หรือผู้ใหญ่วอ เจ้าของร้านเอซีบาร์ พานายวรท ตู้วิเชียร หรือโดโด้ บุตรชาย ซึ่งถูกโจมตีทางโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าเป็นผู้มีอิทธิพล และเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร. เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจและชี้แจงต่อสังคม พร้อมทั้งขอตรวจดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บได้ในตัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากคดีนี้เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัว รวมถึงส่งผลต่อภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า โดยในวันนี้มีทีมผู้เชี่ยวชาญจาก 4 สถาบัน ประกอบด้วยสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ศิริราช และรพ.รามาธิบดี มาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอโดยมีการเจาะเลือดและเก็บเนื้อเยื่อในกระพุ้งแก้มเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบดีเอ็นเอกับวัตถุพยาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวนเนื่องจากสำนวนอยู่ในชั้นอัยการ โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมาไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอนายวรท เนื่องจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์ทราบว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุจึงไม่ได้สอบสวนและตรวจพิสูจน์

พล.ต.อ.สมยศกล่าวต่อไปว่า ในการสืบสวนสอบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานเอกสาร รวมทั้งผลทางนิติวิทยาศาสตร์ แล้วนำเสนอต่อศาลเพื่ออนุมัติหมายจับแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ในขณะเดียวกัน ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียมีการแชร์ส่งต่อข้อมูลหรือข้อความซึ่งบางครั้งมีทั้งที่เป็นความจริง และบางครั้งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเป็นเท็จ ลักษณะเป็นมโนโซเชียลนำเสนอต่อสังคมออนไลน์ ที่สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว และผู้ที่รับข้อมูลเหล่านี้บางครั้งไม่ได้ใช้วิจารณญาณหรือการไตร่ตรองตัดสินใจที่รอบคอบ แล้วมีการวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งส่งต่อข้อมูลเหล่านั้นต่อไป โดยเฉพาะมีการนำเสนอผ่านทางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ต่อไปอีก ซี่งยิ่งทำให้มีการแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมากยิ่งขึ้นไปอีก ส่งผลกระทบต่อสังคม ประชาชนให้รับทราบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความเคลือบแคลง สงสัย และนำไปสู่การแตกแยกในสังคม นอกจากนี้ยังเป็นการทำลายเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยและบนเกาะเต่าด้วย

“ในการนำส่งต่อข้อความหรือการโพสต์ข้อมูลต่างๆ ทางสื่อสังคมออนไลน์นั้น หากข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ก่อนที่จะโพสต์ข้อความใด ๆ ขอให้พินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ ด้วยเหตุและผลและขอฝากไปยังประชาชน องค์กร หรือสถาบันต่างๆ ที่นิยมนำเอากระแสทางสื่อสังคมออนไลน์มาใช้อ้างอิงในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์หรือสร้างความสำคัญให้กับตนเอง องค์กร และสถาบัน ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นภายใต้ขอบเขตของกฎหมายด้วย นอกจากนี้ ขอฝากไปยังสังคมและผู้เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ขอให้ใช้การนำเสนอตามหลักวิชาชีพหรือการสื่อสารมวลชนที่ถูกต้อง อย่านำเสนอเพียงเพราะว่าเป็นกระแส และต้องการดึงดูดความสนใจให้มีผู้ติดตามข่าวสารจากท่าน” ผบ.ตร.กล่าว และว่า กรณีคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่ประชาชนรวมทั้งสังคมและพี่น้องสื่อมวลชนควรเชื่อมั่นกระบวนยุติธรรมของตำรวจไทย แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศอังกฤษซึ่งมาร่วมรับฟังการดำเนินการของตำรวจไทยยังยอมรับว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไทยถูกต้องเชื่อถือได้ตามวิชาชีพตำรวจซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ขอยืนยันว่าไม่มีแพะแน่นอน

ด้านนายวรพันธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาบางเพจลงข้อมูลเกินความเป็นจริงทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบ รวมถึงการท่องเที่ยวในเกาะเต่ารวมถึงประเทศชาติ หากต้องการความจริงมีขั้นตอนในการตรวจสอบอยู่หรือสามารถโทร.สอบถามที่ตนได้ ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด ไม่ทราบเจตนาของผู้ที่พยายามโจมตี ส่วนการฟ้องร้องได้มอบหมายให้ทีมทนายความไปดำเนินการแล้ว

"ขอวิงวอนสื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลก่อนนำเสนอ และโดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์บางแห่งซึ่งผมติดตามข้อมูลมาโดยตลอด ขอให้หยุดนำเสนอข่าวสารที่ไม่ถูกต้องเสียที ผมได้เคยติดต่อสอบถามว่าเขาเป็นใครแล้ว แต่เขาอยู่ในที่มืด ส่วนครอบครัวของผมอยู่ในที่แจ้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ครอบครัวได้ปรึกษากับทนายความในแง่กฎหมายแล้วว่าสมควรจะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ " นายวรพันธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าสาเหตุที่ครอบครัวถูกโจมตีมาจากเรื่องการเมืองหรือผลประโยชน์ หรือไม่ นายวรพันธ์กล่าวว่า ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็พยายามครุ่นคิด แต่ไม่ทราบคำตอบว่าทำไมครอบครัวจึงถูกโจมตีมากขนาดนี้ ไม่ได้มองว่าตัวเองและครอบครัวเป็นเหยื่อ เข้าใจการทำงานของตำรวจที่ต้องตั้งประเด็นไว้ก่อนในตอนแรกซึ่งโยงมาถึงครอบครัวตน แต่เมื่อสืบสวนสอบสวนแล้วพบว่าไม่ใช่ ก้น่าจะจบ ตนไม่เข้าใจที่กลับมาการนำไปขยายความผ่านโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชนจนเกิดความเสียหายขนาดนี้

ด้านนายวรทกล่าวเพียงสั้นๆ ว่ารู้สึกเสียใจที่คนไทยไปเชื่อบุคคลที่ไม่มีตัวตน ไม่มีใครเข้ามาถามความจริงกับตน มีเพียงแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น

พล.ต.อ.สมยศกล่าวด้วยว่า การแถลงข่าวและตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดี เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นอัยการแล้ว เป็นเพียงการแสดงความบริสุทธิ์ใจของครอบครัวตู้วิเชียรเท่านั้น นอกจากนี้ได้สั่งให้ พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบก.ปอท. ไปดำเนินการตรวจสอบเจ้าของเพจผู้โพสต์ข้อความและผู้ที่ส่งต่อข้อความ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบถึงเป้าหมายของผู้กระทำว่ามีเจตนาเพื่อมุ่งดิสเครดิตของการทำงานของทีมสืบสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รัฐบาล รวมถึงตนเองด้วย ทางตำรวจทราบแล้วว่าใครเป็นเจ้าของเพจ พร้อมเตือนผู้ที่ส่งต่อข้อความว่ามีความผิดเท่ากับผู้โพสต์

ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า บุคคลดังกล่าวมีเจตนาสร้างความเสียหายให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการตำรวจทุกคน รัฐบาลไทย รวมถึงตนด้วย แต่เราไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากขณะนี้สำนวนคดีอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถนำข้อมูลที่อยู่ในสำนวนออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชนได้ตามที่สื่อมวลชนต้องการ ทั้งนี้สั่งการให้ พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท..)ตรวจสอบข้อมูลในโซเชีลยมีเดียอย่างละเอียดแล้ว

เมื่อถามต่อว่า บุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคู่ขัดแย้งทางการเมืองกับรัฐบาล คสช.หรือไม่ ผบ.ตร. ตอบว่า ตำรวจรู้ตัวว่าเป็นใคร แต่ไม่อยากไปลงลึกขนาดนั้น ตำรวจทำตามที่พนักงานอัยการสั่งเท่านั้น ถ้าอัยการไม่สั่ง เราก็ไม่สามารถเผยแพร่ข้อมูลต่างๆได้มาก เพราะมีความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าผู้ต้องหาชาวพม่าสามารถร้องขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอซ้ำอีกครั้ง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของอัยการ หากอัยการอนุญาตก็สามารถกระทำได้ ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ตำรวจเองก็จะดำเนินการทุกอย่างเฉพาะที่อัยการสั่งมาเท่านั้น ส่วนองค์กรใดที่จะเชิญตำรวจไปชี้แจงหรือให้ข้อมูลนั้น ยืนยันว่าตำรวจไม่สามารถกระทำได้ เพราะตำรวจต้องปฏิบัติตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การให้ข้อมูลในรายละเอียดที่เป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวนไม่สามารถกระทำได้ เพราะถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมาย

นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์นิติเวช สาขาวิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอทั้งจากการขูดเอาจากกระพุ้งแก้มและด้วยวิธีการเจาะเลือด ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมง โดยจะนำตัวอย่างดีเอ็นเอของ นายวรท ไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บได้จากบริเวณช่องคลอดของศพผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง และดีเอ็นเอจากศพฝ่ายชาย รวมทั้งดีเอ็นเอที่พบโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับให้เร่งตรวจสอบเพื่อให้ได้ผลออกมาไขข้อข้องใจของสังคมโดยเร็วที่สุด

























กำลังโหลดความคิดเห็น