ตำรวจกองปราบฯ ควบคุมตัวสาวโคราชผู้ต้องคดียักยอก จยย.ส่ง สภ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ ดำเนินคดี ถือเป็นผู้ต้องหารายสุดท้าย ก่อนที่คุกกองปราบฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องผีดุแห่งนี้จะถูกทุบเพื่อก่อสร้างใหม่
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังเบิกตัว น.ส.นงเยาว์ แซ่ตัน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 3 ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา ตามหมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 17/2550 ลงวันที่ 15 มกราคม 2550 ข้อหายักยอกทรัพย์จักรยานยนต์ จากห้องขังกองปราบปราม ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ รับตัวไปดำเนินคดี
พ.ต.ท.ต่อวงศ์กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ได้มีการคุมตัวมาฝากขังไว้ที่ห้องขัง บก.ป. ภายหลังจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 47 ซอยไสวประชาราษฎร์ ถนนเลียบคลอง 4 หมู่ 5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของผู้ต้องหารายนี้นับเป็นรายล่าสุดที่ชุดจับกุม กก.1 บก.ป.สามารถจับกุมตัวได้ และคาดว่าน่าจะเป็นรายสุดท้ายที่ถูกคุมตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป.ก่อนจะปิดตัวลง อาจเป็นการปิดฉากคุกกองปราบที่มีเรื่องราวสยองขวัญเกิดขึ้นจนโด่งดังในความเฮี้ยน เพราะต้องมีการรื้อถอนอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องขังดังกล่าวด้วย โดยจะไปใช้ห้องขังผู้ต้องหาที่อาคารของ บก.ปคม. เดิม
ด้าน พ.ต.ท.ดำรงสิทธิ์ โมราฤทธิ์ รอง ผกก.4 บก.ป. ปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงาน ผบก.ป. ซึ่งควบคุมดูแลการย้ายสถานที่ทำงานของ บก.ป.กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดการขนย้ายข้าวของเครื่องใช้สำนักงานจากห้องทำงานต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ทุกส่วนในสังกัด บก.ป.ให้หมด เนื่องจากอยู่ระหว่างการเปิดประมูลหาผู้รับเหมาทำการรื้อถอนอาคารส่วนที่เหลือ เพื่อส่งมอบพื้นที่ในการสร้างที่ทำการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
พ.ต.ท.ดำรงสิทธิ์กล่าวต่อว่า สำหรับห้องขัง บก.ป.แห่งนี้ก็จะต้องรื้อเอาลูกกรง โครงเหล็กบางส่วนไปประกอบเพื่อสร้างห้องขังใหม่ที่ตึกด้านหน้าซึ่งเป็นที่ทำการชั่วคราว หลังจาก บก.ปคม.ได้ย้ายออกไป โดยมีเพียงห้องขังเดียว และไม่สามารถคุมขังผู้ต้องหาชาย-หญิง รวมกันได้ จะต้องมีการกั้นแยกกันอยู่คนละห้อง อย่างไรก็ตาม หากห้องขังใหม่ยังไม่เรียบร้อย ก็ยังคงใช้ห้องขังเดิมนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน
ขณะที่ ร.ต.ต.สำเริง ใจแสน ร้อยเวร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำห้องขัง บก.ป.ได้รับอนุญาตจาก พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตและสำรวจห้องขังได้ หลงจากผู้ต้องหารายสุดท้ายออกไปแล้ว ได้กล่าวว่า สำหรับกรณีการใช้ห้องขัง บก.ป. นั้น ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาสั่งการลงมา ตนมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
ร.ต.ต.สำเริงกล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องหาที่จะถูกคุมตัวไว้ถึงขณะนี้ก็ไม่มีใครแล้ว แต่จะบอกว่า น.ส.นงเยาว์ เป็นรายสุดท้ายหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ ตนก็คงจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีคำสั่งให้ย้ายไปใช้ห้องขังใหม่ แต่เท่าที่ทราบคือห้องขังที่ปรับปรุงอยู่ยังไม่เรียบร้อย และมีขนาดเล็กกว่าเดิมมาก จึงเกรงว่าจะมีผลกระทบหากมีการคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมๆ กันหลายราย รวมทั้งผู้ต้องหาต่างเพศกันด้วย
“ที่ผ่านมา เวลาที่ผมต้องเข้าเวรคนเดียวตอนกลางคืน ก็เคยพยายามจะยืนบอกกับผู้ต้องหาที่เสียชีวิตในห้องขังนี้โดยไม่ได้รู้สึกกลัว ตนไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้รบหลู่ ถ้าได้เจอก็จะบอกว่า ขอให้กลับบ้านเถิด ห้องขังนี้อีกไม่นานก็จะรื้อแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้เจอหรือได้คุยด้วยเลยสักครั้ง” ร.ต.ต.สำเริงกล่าว