รักษาราชการแทน ผช.ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงาน สพฐ.ตร. พร้อมกำชับให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไปตามมาตรฐานสากล ยืนยันระบบการทำงานได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นของตำรวจสากล
วันนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ลานหน้าสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผช.ผบ.ตร.) ดูแลงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจติดตามการปฏิบัติงานของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตลอดจนรับทราบปัญหาข้อขัดข้องและแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการตามนโยบายการบริหารราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก รักษาราชการแทน ผู้บังคับบัญชาสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (รรท.ผบช.สพฐ.ตร.) พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ โดยการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ได้มีการนำเสนอวีดิทัศน์เกี่ยวกับภารกิจของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ในการสนับสนุนงานตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และวิทยาการตำรวจ ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานควบคู่ไปกับหน่วยปฏิบัติของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวภายหลังมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ สพฐ.ตร.ว่า นโยบายหลักที่ได้กำชับคือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นานาประเทศ พร้อมทั้งได้พิจารณาหาเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งจัดหาระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ เข้ามาช่วยเสริมต่อการปฏิบัติภารกิจ เพื่อให้การเก็บวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเกิดความรอบคอบและแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งได้มารับฟังปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อีกด้วย
รรท.ผช.ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาการปฏิบัติหน้าที่ของกองพิสูจน์หลักฐานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งจากสภาพความขัดแย้งทางการเมืองในเมืองหลวง ตลอดจนปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนี้ต้องนำระบบที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้สอดคล้องกัน เพื่อให้องค์กรกลับมาเป็นหัวใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีวิธีสร้างความมั่นใจต่อต่างชาติอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาระบบสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ ของตำรวจไทยเกิดข้อครหาอย่างมาก พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ข้อครหาดังกล่าวเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่เหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานของไทยได้ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของต่างประเทศในระดับสากลมาโดยตลอด โดยเฉพาะการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลในเหตุการณ์ต่างๆ หลายคดี เจ้าหน้าที่และระบบของไทยต่างได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี และเป็นที่เชื่อมั่นของตำรวจสากล