ล่าสาวแสบถึงปราจีนฯ หอบลูกหนี เชื่อรู้เห็นการหายตัวครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น

ตร.เร่งล่า “พรชนก” สาวใหญ่ชาวไทย หลังได้รับประกันตัวก่อนหลบหนี เชื่อรู้เห็นการหายตัวไปของครูสอนภาษาญี่ปุ่น วัย 79 ปี แกะรอยถึงบ้านที่ จ.ปราจีนบุรีไปพร้อมกับสามีคนไทยเพื่อไปรับลูก พบประวัติแสบแอบใช้โทรศัพท์มือถือของครูสอนภาษาไปสอบถามสถาบันทางการเงินถึงเรื่องการทำประกัน

วันนี้ (19 ต.ค.) พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รักษาราชการแทน ผู้บังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนคราล (ผบก.สส.บช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายโยชิโนริ ชะมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาญี่ปุ่นที่หายตัวว่า ขณะนี้ได้จัดชุดติดตามตัวนางพรชนก ไชยะปะ เพื่อขอข้อมูลบางอย่างและก็ขอให้นางพรชนกตอบคำถามตำรวจตามความเป็นจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริ เพราะเชื่อว่านางพรชนกน่าที่จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริ เพราะเป็นคนเดียวที่อยู่ห้องพักเลขที่ 180 ชั้น 10 ศรีวราแมนชั่น 2 ของนายโยชิโนริ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรายังไม่พบตัวนางพรชนก เนื่องจากภายหลังที่นางพรชนกถูกจับกุมแล้วที่ สน.ห้วยขวาง แต่ต่อมานางพรชนกได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลและได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา

พ.ต.อ.สมบัติกล่าวว่า หลังจากนั้นมีข่าวว่านางพรชนกได้มาหานายสมชาย แก้วบางยาง สามีคนไทยที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่นางพรชนกและนายสมชายจะหายตัวไปพร้อมกันและไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

มีรายงานว่า ทางชุดสืบสวน บช.น.ได้เดินทางไปที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อหาตัวนางพรชนกและนายสมชาย หลังทราบว่าทั้งคู่ได้เดินทางมาหาลูกสาวคนโตที่อาศัยอยู่จังหวัดดังกล่าว แต่เมื่อไปถึงพบว่าทั้งสามคนไม่ได้อยู่ที่พักและไม่ทราบว่าหายไปไหน ตอนนี้ทางชุดสืบสวนก็ต้องมาวางแผนกันใหม่อีกครั้งเพื่อติดตามตัวนางพรชนกและนายสมชาย นอกจากนี้ ทางตำรวจได้ประสานงานกับอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.สระแก้ว จ.ชลบุรี เพื่อหาว่าข่าวมีการพบศพผู้เสียชีวิตที่ไม่ทราบชื่อและรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกับนายโยชิโนริหรือไม่ แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตที่มีลักษณะใกล้เคียงกับนายโยชิโนริแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่กังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังไม่พบศพผู้เสียชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้กระทำความผิดก็ตาม

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เตรียมประสานข้อมูลคดีนายคาซิโตซิ ทานากะ สามีคนที่ 2 ของนางพรชนก ตกบันไดเสียชีวิตที่ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยคดีนั้นทางตำรวจสรุปคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ทางญาตินายคาซิโตซิเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะดูความเชื่อมโยงและจุดสงสัยในคดีนายคาซิโตซิ กับนายโยชิโนริเปรียบเทียบกัน นอกจากนี้จะตรวจสอบว่านางพรชนกมีนัดรายงานตัวต่อศาลเมื่อใด หากว่าไม่มารายงานตัวตามนัดของศาลในคดีลักทรัพย์ ทางศาลก็จะยึดเงินประกันและออกหมายจับต่อไป แต่ถึงขณะนี้ทาง สน.ห้วยขวางก็ไม่สามารถติดต่อกับนางพรชนกและนายสมชายได้อีกเลยนับตั้งแต่ได้รับการประกันตัวจากศาล

โดยวานนี้ ชุดสืบสวน บก.น.1 ชุดสืบสวน สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัย 5 จุดที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของนายโยชิโนริ อาทิ บ้านเลขที่ 201/237 หมู่บ้านออคิดส์วิลล่า หมู่ที่ 7 ถนนบางนา-ตราด ต.บางเสาธง อง.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ของนางพรชนก ที่ปล่อยให้ผู้อื่นเช่าต่อ และบ้านพักของนางพรชนกที่อยู่กับสามีที่ประกอบอาชีพขับแท็กซี่รับจ้างภายในการเคหะบางพลี โดยเจ้าหน้าที่เน้นหาหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องและเก็บลายนิ้วมือแฝง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเชื่อมโยงคดี

พ.ต.อ.สมบัติกล่าวว่า จากการตรวจค้นที่บ้านพักของนางพรชนก ปรากฏว่ายังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่จะสามารถนำมาเชื่อมโยงการหายตัวไปของนายโยชิโนริได้เลย ที่สำคัญยังไม่พบตัวนางพรชนกด้วย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ประสานไปยังธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ เพื่อขอตรวจสอบธุรกรรมการเงินของนายโยชิโนริ และบริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด (AIA) หลังพบข้อมูลว่านางพรชนกใช้โทรศัพท์มือถือของนายโยชิโนริไปสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงเรื่องการทำประกัน แต่ปรากฏว่าไม่มีการออกกรมธรรม์ให้นายโยชิโนริแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายโยชิโนริน่าจะเสียชีวิตแล้ว เพราะเจ้าตัวอายุมากประกอบกับมีโรคประจำตัวที่ต้องพบแพทย์เป็นประจำ

ทั้งนี้ ชุดสืบสวนนครบาลได้นำหมายเข้าค้นบ้านเลขที่ 201/237 หมู่บ้านออคิดส์วิลล่า ถนนบางนา-ตราด กม.26 ของนางพรชนกอีกครั้ง หลังได้รับแจ้งจากผู้เช่าว่าได้กลิ่นคล้ายซากศพ แต่จากการขุดค้นนานกว่า 4 ชั่วโมง กลับไม่พบศพมนุษย์แต่อย่างใด จึงถอนกำลังกลับไปประชุมเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลหาทางติดตามตัวครูสอนภาษารายนี้ต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายโยชิโนริ ชะมะโตะ ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไปว่า คดีนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ได้สั่งการกำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสันติบาล และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบให้เร่งสืบสวนสอบสวนโดยเร็ว และให้รายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกระยะ จากการตรวจสอบกับตำรวจที่ทำคดีนี้ทราบว่าขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ตนมั่นใจว่าอีกไม่นานคงจะทราบสาเหตุที่แท้จริง ขอให้ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ทำงานสักระยะหนึ่งก่อน